มาเลเซียออกคำสั่งห้ามพลเมืองจากประเทศที่มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 เกิน 1.5 แสนรายเข้าประเทศตั้งแต่สัปดาห์หน้า เพื่อลดความเสี่ยงการนำเข้าเชื้อไวรัส

สำนักข่าว แชนเนลนิวส์เอเชีย รายงานว่า นายอิสมาอิล ซาบรี ยาคอบ รัฐมนตรีอาวุโสฝ่ายความมั่นคงและกลาโหมแห่งมาเลเซีย ประกาศในวันพฤหัสบดีที่ 3 ก.ย. 2563 ว่า รัฐบาลจะบังคับใช้มาตรการ ห้ามพลเมืองจากประเทศที่มีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 มากกว่า 150,000 ราย เดินทางเข้าประเทศ ตั้งแต่วันที่ 7 ก.ย. นี้

นายยาคอบ ระบุว่า ประเทศที่ถูกขึ้นบัญชีรวมถึง สหรัฐอเมริกา, บราซิล, ฝรั่งเศส, สหราชอาณาจักร, สเปน, อิตาลี, ซาอุดีอาระเบีย, รัสเซีย และบังกลาเทศ โดยรัฐบาลจะเพิ่มรายชื่อประเทศพวกเขาพิจารณาแล้วว่า มีความเสี่ยงสูง และมีผู้ติดเชื้อมากกว่า 150,000 รายเพิ่มเข้าไปในบัญชีอีก

อย่างไรก็ตาม นายยาคอบย้ำว่า สำหรับกรณีฉุกเฉิน หรือกรณีที่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ระดับทวิภาคี เช่น ผู้ที่ต้องเดินทางเข้ามาเพื่อประชุมระหว่างประเทศ ทางการจะอนุญาตให้เข้าประเทศได้ แต่ต้องมีการอนุญาตจากสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองก่อน

ทั้งนี้ มาเลเซียพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 14 รายในวันพฤหัสบดี ทำให้ยอดสะสมในประเทศเพิ่มเป็น 9,374 รายแล้ว โดยในกลุ่มผู้ติดเชื้อรายใหม่ มี 4 รายที่เป็นผู้ติดเชื้อนำเข้า ที่เหลือเป็นผู้ติดเชื้อภายในประเทศ

ในช่วงหลายวันที่ผ่านมา มาเลเซียเพิ่มความเข้มงวดในการรับคนเข้าประเทศมากขึ้น โดยเมื่อวันอังคารพวกเขาก็เพิ่งออกมาตรการ ห้ามผู้ถือวีซ่าระยะยาวที่เป็นพลเมือง อินเดีย, อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ เดินทางเข้าประเทศ เริ่มตั้งแต่ 7 ก.ย.นี้ ตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข เนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาในทั้ง 3 ประเทศเพิ่มสูง

...

แต่รัฐบาลยังอนุญาตให้ชาวมาเลเซียจากประเทศความเสี่ยงสูง เดินทางกลับมาตุภูมิได้ โดยต้องเข้ารับการกักตัวนาน 14 วัน ตามขั้นตอนมาตรฐานของรัฐ