เกาหลีใต้กุมขมับ ผู้ป่วยโควิด-19 อาการสาหัสเพิ่ม 11 เท่าตัว หวั่นเตียงไม่พอ คาดสาเหตุส่วนหนึ่งมาจากแพทย์ฝึกหัดประท้วงหยุดงาน

เว็บไซต์ The Korea Herald รายงานวันที่ 1 ก.ย. ว่า จำนวนผู้ป่วยสะสมจากโรคโควิด-19 ในเกาหลีใต้ล่าสุด เพิ่มขึ้นทะลุ 2 หมื่นรายแล้ว อยู่ที่ 20,182 ราย หลังพบผู้ป่วยรายใหม่ 235 ราย โดยไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่ม

แม้จำนวนผู้ป่วยรายใหม่ต่อวันในเกาหลีใต้จะมากถึงหลักร้อยแต่ก็ถือว่ามีแนวโน้มพบผู้ป่วยรายใหม่ลดลงนับตั้งแต่วันที่ 27 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในวันดังกล่าวเกาหลีใต้พบผู้ป่วยโควิด-19 มากถึง 441 ราย

หลายฝ่ายมองว่าเกาหลีใต้กำลังอยู่ในช่วงการระบาดระลอกใหม่ โดยพื้นที่การระบาดรุนแรงอยู่ที่กรุงโซล เมืองหลวงของประเทศและจังหวัดใกล้เคียง ทำให้จำนวนผู้ป่วยโควิด-19 ในตอนนี้เพิ่มสูงขึ้นมาก จากเดิมที่ในช่วงต้นเดือนสิงหาคม เกาหลีใต้รายงานจำนวนผู้ป่วยโควิด-19 แต่ละวันอยู่ที่ประมาณ 50 รายเท่านั้น

นอกจากสถานการณ์การระบาดที่มีตัวเลขผู้ป่วยสูงขึ้นแล้ว ในตอนนี้เกาหลีใต้ยังกังวลถึงผู้ป่วยโควิด-19 อาการสาหัส ที่ปัจจุบันรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 104 ราย เพิ่มสูงขึ้นถึง 11 เท่าตัวเมื่อเทียบกับตัวเลขเมื่อ 2 สัปดาห์ที่แล้ว และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเชื่อว่า ผู้ป่วยโควิด-19 อาการสาหัสอาจเพิ่มขึ้นเป็น 130 ราย ในช่วงต้นเดือนกันยายนนี้

ขณะที่จำนวนเตียงสำหรับรองรับผู้ป่วยโควิด-19 อาการสาหัสทั่วประเทศเกาหลีใต้เหลือว่างเพียง 43 เตียง โดยในจำนวนนี้มี 9 เตียงอยู่ในกรุงโซล

ความกังวลว่าเตียงคนไข้อาจไม่พอดูแลผู้ป่วยโควิด-19 อาการหนัก ทำให้หน่วยงานสาธารณสุขในเกาหลีใต้มีแผนเพิ่มเตียงผู้ป่วยสาหัสอีก 40 เตียงภายในวันที่ 14 ก.ย. และอาจย้ายผู้ป่วยอาการไม่รุนแรงไปรักษาตัวในสถานที่อื่น เพื่อนำเตียงของผู้ป่วยไม่สาหัสมารักษาผู้ป่วยอาการหนักแทน

...

หลายฝ่ายมองว่า สาเหตุที่ทำให้จำนวนผู้ป่วยสาหัสมากขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการหยุดงานประท้วงของแพทย์ฝึกหัดที่เริ่มมาตั้งแต่วันที่ 21 สิงหาคม ที่ผ่านมา เพื่อแสดงความไม่พอใจนโยบายรัฐบาลเกาหลีใต้ที่เล็งจะเพิ่มโควตานักเรียนแพทย์ให้มากขึ้น

ส่วนมาตรการป้องกันการแพร่ระบาด รัฐบาลเกาหลีใต้ออกคำสั่งห้ามรับประทานอาหารที่ร้านอาหาร ผับและบาร์หลัง 21 นาฬิกา เช่นเดียวกับในกรุงโซล เมืองหลวงของประเทศ ทางการท้องถิ่นได้ออกประกาศเตือนประชาชนให้ระวังการติดโรคโควิด-19 และบริการขนส่งมวลชนต้องเก็บข้อมูลสุขภาพของผู้โดยสารด้วย.