การประชุมสามัญประจำปีของสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (UNGA) ในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเดือน ก.ย.ปีนี้ ที่มหานครนิวยอร์ก รัฐนิวยอร์กของสหรัฐฯ เป็นที่รู้กันแล้วว่าจะจัดผ่านระบบออนไลน์เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ 75 ปี การก่อตั้งสหประชาชาติ (UN)

สมาชิกยูเอ็นจีเอตกลงกัน เหล่าผู้นำโลกที่จะแถลงต่อที่ประชุมใหญ่ต้องพูดลงคลิปวิดีโอบันทึกไว้ก่อน เมื่อถึงวันประชุม ทีมงานของยูเอ็นจะทยอยเปิดคลิปการแถลงตามคิวแถลงของผู้นำแต่ละประเทศ

เหตุผลหลักเป็นเพราะการระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้เกิดความไม่สะดวกหลากหลาย รวมทั้งการเข้มงวดการเดินทางระหว่างประเทศ และภัยเสี่ยงติดเชื้อไวรัสมรณะที่กำลังคุกคามคนทั่วโลกไม่มีทีท่าจะหายไปเร็ววัน

การรวมตัวหรืออยู่ใกล้ชิดของคนหมู่มากจึงเป็นการเพิ่มโอกาสเสี่ยงติดเชื้อโดยใช่เหตุ

มีนักการทูตที่อยู่ในมหานครนิวยอร์กจำนวนแค่หยิบมือได้เข้าร่วมและให้จัดงานอีเวนต์ที่เกี่ยวข้องได้ 2-3 งาน

แต่มีผู้นำประเทศหนึ่งคนที่อาจเป็นคนเดียวที่ได้ขึ้นโพเดียมยืนพูดที่ห้องโถงประชุมใหญ่ของยูเอ็นจีเอ ซึ่งก็คือประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ผู้เป็นเสมือนเจ้าภาพ เพราะตึกทำการของ UN อยู่ที่มหานครนิวยอร์ก

“พวกเราหวังว่าประธานาธิบดีทรัมป์จะได้ขึ้นแถลงต่อที่ประชุมยูเอ็นจีเอด้วยตัวเอง” เคลลี คราฟต์ ทูตผู้แทนสหรัฐฯประจำยูเอ็นกล่าว และว่า “ถ้าเป็นไปได้ ทรัมป์จะเป็นผู้นำ “เพียงคนเดียว” ที่ได้แถลงต่อที่ประชุมยูเอ็นจีเอ”

ทรัมป์จะได้เป็นผู้นำ “เพียงคนเดียว” คนนั้นหรือไม่ ต้องรอติดตามกันต่อไป

แต่เหตุการณ์สำคัญที่จะเกิดขึ้นในที่ประชุมยูเอ็นจีเอด้วยก็คือการที่ชาติสมาชิกยูเอ็นจีเอ 193 ประเทศจะให้สัตยาบันรับรองปฏิญญาเนื่องในวาระ 75 ปี ของยูเอ็นอย่างเป็นทางการซึ่งเหล่านักการทูตเห็นชอบไว้เมื่อต้นเดือน ก.ค.

...

เป็นปฏิญญาให้คำมั่นจะสร้างโลกหลังยุคไวรัสโควิด-19 ให้เท่าเทียม ทำงานร่วมกันและปกป้องโลกภายใต้หัวข้อ หรือธีม “อนาคตที่พวกเราต้องการ ยูเอ็นที่พวกเราอยากให้เป็นและการย้ำจุดยืนที่ยึดหลักการพหุภาคีนิยม”.

เกรียงศักดิ์ จุนโนนยางค์