นักวิทยาศาสตร์เผยตัวเลขที่น่าตกใจ เมื่อพบว่าสัตว์ป่ารวมเกือบ 3,000 ล้านตัวในออสเตรเลีย ต้องล้มตาย และได้รับผลกระทบจากเหตุไฟป่ารุนแรงเมื่อปีที่ผ่านมา
ไฟป่าออสเตรเลียครั้งใหญ่ เมื่อปีที่ผ่านมา ได้สร้างความเสียหายรุนแรงกว่าที่คิด โดยนักวิทยาศาสตร์พบว่ามีสัตว์ป่าเกือบ 3,000 ล้านตัวล้มตาย และไร้ที่อยู่อาศัย โดยในจำนวนนี้แบ่งเป็นสัตว์เลื้อยคลานกว่า 2.46 พันล้านตัว นก 180 ล้านตัว สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม 143 ล้านตัว และกบอีก 51 ล้านตัว ซึ่งองค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล หรือ WWF ยกให้เป็นหนึ่งในเหตุการณ์ไฟป่าที่สร้างความเสียหายรุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ยุคใหม่
ย้อนไปเมื่อช่วงเดือนมกราคมซึ่งเป็นช่วงที่ไฟป่ารุนแรงที่สุด นักวิทยาศาสตร์เคยประเมินว่าน่าจะมีสัตว์ป่าราว 1.25 พันล้านตัว ที่ล้มตายจากไฟป่าเฉพาะในรัฐนิวเซาท์เวลส์ และรัฐวิคตอเรีย แต่ผลการศึกษาล่าสุดจะครอบคลุมพื้นที่ ราว 71.6 ล้านไร่ หรือเกือบเท่าพื้นที่ของประเทศอังกฤษ ที่ถูกเผาทำลายต่อเนื่องตั้งแต่เดือนกันยายนจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ทำให้ได้เห็นความเสียหายในภาพรวมที่ชัดเจนขึ้น ซึ่งถึงแม้ว่ายอดเกือบ 3 พันล้านตัวจะยังไม่ใช่ยอดตายทั้งหมด แต่โอกาสที่สัตว์จะหลบหนีและอยู่รอดหลังไฟป่าก็มีไม่มาก เนื่องจากขาดแคลนอาหารและแหล่งที่อยู่อาศัย นอกจากนี้ตัวเลขที่เปิดเผยออกมา ยังมีข้อจำกัดที่ไม่สามารถนับรวม สัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง ปลา รวมทั้งเต่าด้วย
...
ในขณะที่รัฐบาลออสเตรเลีย ได้ประกาศรายชื่อสัตว์ที่ต้องการความช่วยเหลือเร่งด่วน 13 สายพันธุ์ หลังจากเกิดเหตุไฟป่า เนื่องจากถิ่นที่อยู่อาศัยของพวกมันถูกทำลายไปไม่น้อยกว่าร้อยละ 30 ในจำนวนนี้รวมถึง โคอาล่า วัลลาบีส์ นก ปลา และกบ โดยทางรัฐบาลได้อนุมัติงบประมาณ 50 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือราว 1,127 ล้านบาท เพื่อช่วยฟื้นฟูถิ่นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่า ขณะที่นักสิ่งแวดล้อมเรียกร้องให้ทางการออสเตรเลีย บังคับใช้กฎหมายเพื่อการอนุรักษ์ให้เข้มงวดขึ้น เพื่อควบคุมการเกิดไฟป่าในระยะยาว เนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมากที่ระบุว่าเหตุไฟป่าที่เกิดขึ้นเป็นผลพวงมาจากเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศด้วย.