เอาล่ะซี้ “AI” จะมาทำงานแทนที่มนุษย์ แล้วพวกเราจะตกงานกันไหม เรื่องนี้มีคำตอบจากเว็บไซต์ดัง “Will Robots Take My Jobs?” ยืนยันว่า อาชีพไหนที่ใช้ความคิดสร้างสรรค์, ต้องพึ่งความเป็นผู้นำ, อาศัยคอนเนกชันขั้นสูง, มีความละเอียดอ่อนลึกซึ้ง และใช้จิตวิญญาณความเป็นศิลปิน บอกเลยว่า AI ไม่มีวันมาแทนที่ได้!!

จากโปรแกรมคำนวณความเสี่ยงตกงานเพราะ AI ของอาชีพ ต่างๆ “Will Robots Take My Jobs?” จัดอันดับ 9 อาชีพที่ AI ทำไม่ได้!! อันดับแรกคือ “ผู้จัดการฝ่ายบุคคล” อัตราเสี่ยงถูกแย่งงานโดย AI แค่ 0.55% เพราะทุกองค์กรต้องพึ่งคนที่มีทักษะในการรับมือและจัดการกับบุคลากรภายในบริษัท ถ้าผู้จัดการฝ่ายบุคคลไม่เก่ง ก็มีแต่สร้างความวุ่นวายแตกแยกให้องค์กร

อาชีพที่อยู่รอดปลอดภัยยังรวมถึง “ผู้จัดการฝ่ายขาย”หน่วยหาเงินหาทองเข้าบ้าน มีโอกาสโดน AI แย่งงานทำเพียง 1.3% ตำแหน่งนี้ต้องอาศัยทักษะการโน้มน้าวเจรจา, จิตวิทยาการต่อรอง และคอนเนกชันขั้นสูง จึงจะสามารถดึงเงินจากกระเป๋าลูกค้าได้ ถ้าได้เซลส์เก่งๆถือเป็นวาสนาขององค์กร

อีกหนึ่งอาชีพไฟเขียวโลดผ่านตลอด ยกให้ “ผู้จัดการฝ่ายการตลาด” มีอัตราเสี่ยงแค่ 1.4% มาร์เกตติ้งเมเนเจอร์ยุคใหม่ต้องฉลาดใช้ AI เพื่อวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภค และกำหนดกลยุทธ์ทางการตลาดอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายโดยตรง ขณะเดียวกัน สิ่งที่ขาดไม่ได้คือไอเดียสร้างสรรค์ใหม่ๆ และจินตนาการ อย่าเอาแต่ใช้เงิน!!

ข่าวดีสำหรับวงการพีอาร์ “ผู้จัดการพีอาร์” ไม่โดน AI แย่งงานชัวร์ โดยเปอร์เซ็นต์ความเสี่ยงอยู่แค่ 1.5% อาชีพนี้ต้องอาศัยเน็ตเวิร์ก ความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าและสื่อโดยตรง ตราบใดที่ปัญญาประดิษฐ์คุยเจ๊าะแจ๊ะไม่เป็น ก็สบายใจได้เลยว่าพีอาร์ยังมีงานทำไปอีกหลายทศวรรษ อยู่ในแวดวงเดียวกันอย่าง “ออร์กาไนเซอร์จัดงานอีเวนต์” ต้องดิ้นไปเรื่อยๆเพื่อหากิมมิคใหม่มาสร้างสรรค์งานเอาใจลูกค้า ก็เป็นอาชีพเสี่ยงน้อย มีเปอร์เซ็นต์ตกงานเพราะ AI เพียง 3.7%

...

นักเขียนอาชีพ” เป็นอีกหนึ่งอาชีพที่ต้องใช้ทักษะและประสบการณ์สูง ไม่ใช่สักแต่เขียนให้ข้อมูลไปวันๆ จากโปรแกรมคำนวณของ “Will Robots Take My Jobs?” บ่งชี้ว่า นักเขียนมีโอกาสถูก AI แย่งงานเพียง 3.8-4% ตราบใดที่ทุกแวดวงธุรกิจยังต้องการคอนเทนต์ดีๆ คนเขียนหนังสือเก่งไม่มีวันตกงาน

แล้ว “อาชีพนักข่าว” ล่ะ อนาคตร่อแร่ไหม ถ้าเป็นนักข่าวภาคสนามทั่วไป มีความเสี่ยงเยอะหน่อย 11% แต่ระดับมันสมองของกองบรรณาธิการ เช่น “เอดิเตอร์” และ “คอลัมนิสต์” มีความเสี่ยงถูก AI แย่งงานเพียง 5.5% เพราะยังไงซะพวกปัญญาประดิษฐ์ก็ไม่สามารถวิเคราะห์เจาะลึกตีประเด็นข่าวได้ถึงกึ๋นเหมือนสติปัญญาอันสลับซับซ้อนของมนุษย์

นักพัฒนาซอฟต์แวร์” ยังเป็นอาชีพติดลมบนของยุคดิจิทัล ที่เสี่ยงถูกแย่งงานเพียง 4.2% เพราะต้องอาศัยจินตนาการในการสร้างสรรค์ซอฟต์แวร์ และนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค เช่นเดียวกับ “กราฟิก ดีไซเนอร์” ซึ่งมีความเป็นศิลปิน มีจุดแข็งอยู่ที่จินตนาการและความลื่นไหลของไอเดีย เป็นทักษะเก๋ๆที่ AI ทำไม่เป็น จึงเสี่ยงตกงานแค่ 8.2%

แล้วอาชีพไหนเป็นเหยื่อ AI เต็มๆ ตกงานชัวร์เพราะทดแทนได้ด้วยปัญญาประดิษฐ์ ก็มีตั้งแต่ “โอเปอเรเตอร์” อัตราเสี่ยงถึง 99% ตามมาด้วย “พนักงานบัญชี” ความเสี่ยง 98%, “รีเซฟชัน” โดน AI แย่งงาน 96%, “พนักงานห้าง” โอกาสตกงาน 92%, “พนักงานพิสูจน์ อักษร” เข้าโซนเสี่ยง 84%, “พนักงานไอที” มีแววตกงาน 65%, “นักวิเคราะห์การตลาด” เสี่ยง 61% และ “เซลส์ขายโฆษณาออนไลน์” เข้าข่ายเสี่ยง 54% เพราะเริ่มมีโปรแกรมจองโฆษณาอัตโนมัติทางออนไลน์ เหมือนจองตั๋วเครื่องบินและโรงแรม ไม่ต้องผ่านเซลส์.

มิสแซฟไฟร์