สิงคโปร์เริ่มควบคุมการระบาดรอบ 2 ของไวรัสโควิด-19 ได้แล้ว แต่พวกเขากำลังจะเผชิญการระบาดครั้งใหญ่ที่สุดของไวรัสไข้เลือดออก เดงกี

สำนักข่าว ซีเอ็นเอ็น รายงานในวันศุกร์ที่ 3 ก.ค. 2563 อ้างการเปิดเผยของ สำนักงานสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (NEA) ของสิงคโปร์ ว่า นับตั้งแต่เข้าสู่ปี 2563 จนถึงตอนนี้ สิงคโปร์พบผู้ติดเชื้อไข้เลือดออก เดงกี แล้วมากกว่า 14,000 ราย และคาดว่ายอดตลอดปีจะทะลุสถิติ 22,170 รายของปี 2556 ซึ่งเป็นปีที่เดงกีระบาดในสิงคโปร์หนักที่สุดในประวัติศาสตร์

ไวรัสเดงกี แพร่ผ่านยุงลายบ้าน ซึ่งเป็นยุงสายพันธ์ุเดียวกับที่เป็นพาหะของไวรัส ซิกา, ชิคุนกุนยา และไข้เหลือง พบได้ทั่วไปในภูมิภาคร้อนหรือชื้นของเขตร้อน และพื้นที่กึ่งเขตร้อนในช่วงฤดูฝน โดยจะมีผู้ติดเชื้อราว 25% เท่านั้นที่แสดงอาการป่วย ซึ่งรวมถึงไข้สูง, ปวดหัวอย่างรุนแรง และเจ็บกล้ามเนื้อกับข้อต่อ รายที่อาการหนักจะมีเลือดออก, หายใจลำบาก, อวัยวะล้มเหลว และอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้

ในปีนี้ สิงคโปร์มีผู้เสียชีวิตเพราะไวรัสเดงกีแล้ว 16 ศพ มากกว่าเมื่อปี 2556 ถึง 2 เท่า

ตามปกติ ช่วงเดือนมิถุนายนถึงเดือนตุลาคม ที่มีอากาศอบอุ่น จะเป็นช่วงพีคของฤดูการระบาดของไวรัสเดงกีในสิงคโปร์ เนื่องจากยุงลายมีจำนวนมากขึ้น และระยะฟักตัวของเชื้อสั้นลง แต่ปี 2563 เลวร้ายเป็นพิเศษ โดยเมื่อสัปดาห์ก่อน มีรายงานผู้ติดเชื้อถึง 1,468 ราย นับเป็นสัปดาห์ที่ 3 ติดต่อกันที่พบผู้ป่วยเดงกีมากกว่า 1,000 รายในสัปดาห์เดียว และถือเป็นสัปดาห์ที่มีผู้ป่วยมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศด้วย

เพื่อตอบสนองต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น รัฐบาลสิงคโปร์สั่งยกระดับการตรวจสอบ เพื่อลดโอกาสที่ยุงลายจะทำรังในที่สาธารณะและที่ชุมชน โดยในช่วง 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบอาคารต่างๆ กว่า 6,900 แห่งแล้ว และตั้งแต่วันที่ 15 ก.ค. เป็นต้นไป NEA จะเพิ่มโทษปรับเจ้าของบ้านหรืออาคารที่ล้มเหลวในการควบคุมยุงลายในพื้นที่ของตัวเองด้วย

...

ทั้งนี้ ยอดสะสมของผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในสิงคโปร์ล่าสุดอยู่ที่ 44,479 ราย มีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 26 ศพ