จำนวนผู้เสียชีวิตจากเหตุโคลนถล่มที่เหมืองหยกในเมียนมา เพิ่มเป็นอย่างน้อย 162 ศพแล้ว แต่คาดว่ายอดแท้จริงอาจมากกว่า 200 ศพ เนื่องจากยังมีผู้สูญหายอีกนับร้อยราย

สำนักข่าว นิวยอร์ก ไทม์ส รายงานว่า เหตุเมืองหยก ‘ไว ข่า’ (Wai Khar) ในเมืองพะกาน รัฐคะฉิ่น ทางเหนือของประเทศเมียนมาถล่มเมื่อช่วงเช้าวันพฤหัสบดีที่ 2 ก.ค. 2563 ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 162 ราย หลังหน่วยกู้ภัยพบผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอีกในช่วงเย็น

เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากมรสุมตามฤดูกาลทำให้ฝนตกหนักในเมืองพะกาน จนน้ำท่วมเหมืองกลายสภาพเป็นทะเลสาบ ก่อนที่โคลนมหาศาลจากการทำเหมืองซึ่งพอกพูนเป็นภูเขาสูงถล่มลงมา ดันให้เกิดคลื่นสูงกว่า 20 ฟุตคล้ายกับคลื่นยักษ์สึนามิ ซัดเข้าใส่คนงานเหมืองหลายร้อยคนที่กำลังขุดหาแร่หยกใกล้ทะเลสาบอย่างรวดเร็ว

ตามการเปิดเผยของนาย อู ติน โซ (U Tin Soe) ส.ส.เมืองพะกาน มรสุมที่เข้ามา ทำให้รัฐบาลเมียนมาออกคำสั่งปิดเหมืองทั้งหมดในรัฐคะฉิ่น ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. ถึง 30 ก.ย. เพราะเสี่ยงเกิดดินถล่ม แต่แรงงานผิดกฎหมายที่เหมือง ไว ข่า จำนวนหลายร้อยคนยังคงเดินทางทำเหมืองตามปกติ

“รัฐบาลสั่งให้พวกเขาหยุดเพราะมันอันตรายที่จะทำงานในหน้าฝน” นายอู ติน โซ กล่าว “แต่หลังจากบริษัทเหมืองหยุดปฏิบัติงาน กลุ่มชาติพันธ์ุติดอาวุธก็เข้ามาและรับเงินจากคนงานเหมืองผิดกฎหมาย และอนุญาตให้พวกเขาเข้าไปทำเหมืองต่อ”

...