ผู้ประท้วงในรัฐเวอร์จิเนีย รื้อรูปปั้นคริสโตเฟอร์ โคลัมบัส โยนทิ้งน้ำ เพราะมองว่านักสำรวจผู้นี้คือจุดเริ่มต้นของการกดขี่ชนพื้นเมืองดั้งเดิมในอเมริกา

เว็บไซต์ VPM สื่อท้องถิ่นในรัฐเวอร์จิเนีย สหรัฐฯ รายงานวันที่ 10 มิ.ย. ว่า ผู้ประท้วงเรียกร้องความยุติธรรมให้กับคนผิวดำ เดินทางไปรวมตัวกันที่รูปปั้นคริสโตเฟอร์ โคลัมบัส นักสำรวจผู้ค้นพบทวีปอเมริกา ภายในสวนสาธารณะ Byrd Park ก่อนจะใช้เชือกคล้องรูปปั้นและดึงรูปปั้นลงมา โดยมีผู้ประท้วงบางส่วนนำธงชาติสหรัฐฯ มาคลุมก่อนจะจุดไฟเผา และนำไปโยนทิ้งทะเลสาบที่อยู่ใกล้เคียง

ผู้ชุมนุมคนหนึ่งระบุว่า ครอบครัวของเขาเป็นคนพื้นเมือง และไม่เข้าใจมาตลอดว่าทำไมถึงต้องสร้างอนุสาวรีย์คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส ทั้งๆ ที่เขาเป็นคนนำพาผู้คนจำนวนมากเข้ามาข่มขืน ฆาตกรรม และยึดดินแดนจากคนพื้นเมือง

...

โดยการประท้วงในครั้งนี้ มีจุดมุ่งหมายหลักคือการเรียกร้องความเท่าเทียมให้กับคนผิวดำ หลังเกิดกรณีการเสียชีวิตของนายจอร์จ ฟลอยด์ ชายผิวดำที่ถูกตำรวจผิวขาวใช้เข่ากดคอเกือบ 9 นาทีจนขาดอากาศหายใจ โดยผู้ประท้วงมองว่า นอกจากจะเรียกร้องความเท่าเทียมให้กับคนผิวดำแล้ว ก็ควรเรียกร้องให้กับชนพื้นเมืองที่ต้องประสบชะตากรรมไม่ต่างกัน โดยเฉพาะเมื่อถูกตำรวจควบคุมตัว

นอกจากนี้ ยังมีรายงานการทำลายรูปปั้นคริสโตเฟอร์ โคลัมบัส ที่สวนสาธารณะในเมืองบอสตันด้วย โดยสื่อท้องถิ่นในเมืองบอสตันรายงานว่า ตำรวจได้เข้าตรวจสอบเหตุผู้ไม่หวังดีตัดหัวรูปปั้นคริสโตเฟอร์ โคลัมบัส ที่ตั้งอยู่ในสวนสาธารณะของเมือง

สำหรับคริสโตเฟอร์ โคลัมบัส เป็นนักสำรวจชาวอิตาลี มีชีวิตในช่วงกลางคริสต์ศตวรรษที่ 15 เป็นนักเดินทางผู้ค้นพบ “โลกใหม่” ซึ่งก็คือทวีปอเมริกา ซึ่งทำให้ในเวลาต่อมานำไปสู่การล่าอาณานิคมของชาวยุโรปเข้าไปในแผ่นดินอเมริกา