ตำรวจฮ่องกงสั่งห้ามจัดชุมนุมรำลึกเหตุนองเลือดที่จัตุรัสเทียนอันเหมินเป็นครั้งแรกในรอบ 30 ปี อ้างการระบาดของโรคโควิด-19 อาจส่งผลต่อชีวิตและสุขภาพประชาชน
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่ 1 มิ.ย. ว่า ตำรวจฮ่องกงออกประกาศห้ามชาวฮ่องกงจัดการชุมนุมรำลึกเหตุนองเลือดที่จัตุรัสเทียนอันเหมินที่จะมีในวันที่ 4 มิถุนายนนี้ โดยถือเป็นครั้งแรกในรอบ 30 ปี ที่มีการห้ามจัดกิจกรรมดังกล่าว
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานอ้างเอกสารของตำรวจให้เหตุผลว่า การจัดชุมนุมอาจเป็นภัยคุกคามต่อชีวิตและสุขภาพของประชาชนในช่วงการระบาดของโรคโควิด-19 ขณะที่ผู้จัดกิจกรรมชี้ว่า นี่เป็นเพียงข้ออ้างไม่ให้จัดกิจกรรมทางการเมือง โดยตั้งคำถามถึงคำสั่งอื่นๆ ทั้งการเปิดโรงเรียน สระว่ายน้ำ และร้านคาราโอเกะ ที่สะท้อนว่าทางการฮ่องกงเริ่มผ่อนคลายมาตรการแล้ว โดยผู้จัดกิจกรรมเรียกร้องให้ชาวฮ่องกงออกมาจุดเทียนรำลึกให้ทั่วเมือง แทนที่จะจัดการชุมนุมตามที่ตำรวจฮ่องกงสั่งห้ามไว้แทน
...
คำสั่งห้ามจัดงานรำลึกเหตุนองเลือดที่จัตุรัสเทียนอันเหมิน เกิดขึ้นหลังเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว รัฐบาลจีนพิจารณาผ่านร่างกฎหมายความมั่นคง ที่ถูกนักการเมืองและนักกิจกรรมประชาธิปไตยในฮ่องกงมองว่าลิดรอนสิทธิเสรีภาพ และอาจเป็นจุดอวสานของการปกครองแบบ 1 ประเทศ 2 ระบบในฮ่องกง
โดยการจัดงานรำลึกเมื่อปีที่แล้วถูกมองว่าเป็นเชื้อไฟสำคัญที่ทำให้เกิดการประท้วงใหญ่ต่อต้านกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดนที่ยืดเยื้อกว่า 7 เดือน ซึ่งผู้จัดกิจกรรมอ้างว่า มีชาวฮ่องกงเข้าร่วมงานรำลึกเมื่อปีที่แล้วมากถึง 180,000 คน ขณะที่ฝ่ายตำรวจประเมินว่ามีผู้เข้าร่วม 40,000 คน
สำหรับเหตุนองเลือดที่จัตุรัสเทียนอันเหมิน มีจุดเริ่มต้นมาจากการประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยครั้งใหญ่ในประเทศจีน เมื่อปี 2532 โดยมีศูนย์กลางอยู่ที่จัตุรัสเทียนอันเหมินในกรุงปักกิ่ง ก่อนจะถูกเจ้าหน้าที่พร้อมรถถังและอาวุธครบมือเข้าสลายการชุมนุมในช่วงค่ำของวันที่ 3 มิถุนายน โดยรัฐบาลจีนไม่เคยเปิดเผยจำนวนผู้เสียชีวิตที่แน่ชัด แต่ยืนยันว่าไม่มีผู้ชุมนุมถูกยิงเสียชีวิต ขณะที่ข้อมูลจากเอกสารของรัฐบาลอังกฤษเชื่อว่าอาจมีผู้เสียชีวิตมากถึง 10,000 คน.