แอนดรูว์ คูโอโม ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก
สหรัฐฯ พบกรณีเด็กป่วยเป็นโรคหายากที่ทำให้อวัยวะอักเสบหลายจุด ใน 15 รัฐทั่วประเทศแล้ว โดยหน่วยงานสาธารณสุขกำลังตรวจสอบว่า อาการเหล่านี้เกี่ยวข้องกับการติดเชื้อโควิด-19 หรือไม่
สำนักข่าว อินดีเพนเดนซ์ รายงานว่า นายแอนดรูว์ คูโอโม ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์กกล่าวในงานแถลงข่าวเมื่อวันพุธที่ 13 พ.ค. 2563 ว่า ตอนนี้เจ้าหน้าที่ใน 15 รัฐ รวมทั้งนิวยอร์ก และอีก 5 ประเทศในยุโรป กำลังตรวจสอบกรณี เด็กป่วยกลุ่มอาการ ‘ท็อกซิก ช็อก’ กับป่วยโรคปริศนาคล้ายกับ ‘โรคคาวาซากิ’ ที่ทำให้เกิดอาการอวัยะอักเสบชนิดหายาก ซึ่งมักเกิดกับเด็กอายุ 5 ขวบหรือต่ำกว่า ว่ามีความเกี่ยวข้องกับการติดเชื้อโควิด-19 หรือไม่
นายคูโอโมระบุว่า ในรัฐนิวยอร์กพบเด็กมีอาการคล้ายกันนี้ถึง 102 ราย กระจายตัวทั่วรัฐ โดยราว 60% ในจำนวนนี้ติดเชื้อโควิด-19 ขณะที่ประมาณ 70% ต้องเข้ารับการรักษาในห้องไอซียู และ 19% ต้องใส่ท่อช่วยหายใจ เสียชีวิตไป 3 คนเป็นเด็กชายวัย 5 ขวบ, เด็กชายวัย 7 ขวบ และวัยรุ่นหญิงวัย 18 ปี
ความเป็นไปได้ที่กลุ่มอาการอักเสบในหลายอวัยวะนี้ อาจเชื่อมโยงกับการติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธ์ุใหม่ ทำให้เกิดความกังวลในกลุ่มเจ้าหน้าที่การแพทย์มาก เนื่องจากเด็กแสดงอาการต่างจากผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั่วไปอย่างสิ้นเชิง โดยตามปกติแล้ว ไวรัสตัวนี้มักเล่นงานระบบทางเดินหายใจส่วนบน ทำให้เกิดอาการไอ หรือหายใจลำบาก แต่กลุ่มอาการอักเสบในหลายอวัยวะ ทำให้เกิดอาการบวมแดงตามหลอดเลือดของร่างกายแทน
...
สถานการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ตอนนี้โรงพยาบาลในนิวยอร์ก ต้องขอรายงานจากกระทรวงสาธารณสุขประจำรัฐ ว่ามีเด็กคนใดที่แสดงอาการป่วยคล้ายโรคคาวาซากิหรือกลุ่มอาการท็อกซิก ช็อก หรือไม่ ขณะที่ทางศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ของสหรัฐฯ ขอให้ทางการรัฐนิวยอร์กจัดทำแนวทางปฏิบัติสำหรับรัฐ และโรงพยาบาลอื่นๆ เพื่อช่วยเหลือพวกเขาในการระบุคนไข้ที่มีอาการคล้ายกัน
ทั้งนี้ เป็นที่เชื่อกันมาตลอดว่า เด็กมีความเสี่ยงป่วยรุนแรงจากไวรัสโควิด-19 น้อยกว่าผู้ใหญ่ และผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป รวมทั้งผู้ที่มีอาการป่วยเรื้อรัง เป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงมากกว่า อย่างไรก็ตาม นายคูโอโมกล่าวว่า “หนึ่งในข่าวดีที่เคยมีคือ เด็กจะไม่ได้รับผลกระทบ แต่ตอนนี้เราไม่แน่ใจแล้วว่า เรื่องนี้เป็นความจริงหรือไม่”