องค์การอนามัยโลก (WHO) กลับลำ สนับสนุนให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัยป้องกันติดเชื้อโควิด-19 แล้ว ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงคำแนะนำครั้งใหญ่ เพราะก่อนหน้ายืนยัน คนทั่วไปไม่จำเป็นต้องใส่หน้ากากอนามัย

เมื่อ 4 เมษายน 63 เว็บไซต์เซาท์ ไชน่า มอร์นิง โพสต์ รายงาน องค์การอนามัยโลก (WHO) ออกแถลงการณ์ ขอสนับสนุนรัฐบาลประเทศต่างๆ ที่แนะนำให้ประชาชนทั่วไปสวมหน้ากากอนามัย ป้องกันการติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือโควิด-19 แล้วเมื่อวันศุกร์ที่ 3 เมษายน ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงคำแนะนำครั้งใหญ่ขององค์การอนามัยโลก เพราะก่อนหน้า ยืนยันว่า บุคคลทั่วไปถ้าไม่มีอาการป่วยคล้ายไข้หวัด ก็ไม่จำเป็นต้องสวมหน้ากากอนามัย เพราะคนที่ต้องสวมหน้ากากอนามัยคือ คนที่ติดเชื้อเท่านั้น

ขณะเดียวกัน องค์การอนามัยโลกเสริมด้วยว่า หน้ากากอนามัยสมควรให้บุคลากรการแพทย์ได้ใช้ ขณะที่บุคคลทั่วไปสามารถใช้ผ้า หรือหน้ากากผ้า หรือหน้ากากอนามัยที่ทำขึ้นเองปกปิดใบหน้า เพื่อป้องกันการติดเชื้อโควิด-19

...

สำหรับการเปลี่ยนแปลงท่าทีล่าสุดขององค์การอนามัยโลก (WHO) มีขึ้นขณะมีงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์มากขึ้นที่บ่งชี้ถึงข้อดี ของการสวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่กำลังแพร่ระบาดใหญ่ทั่วโลก โดยมีรัฐบาลในยุโรปหลายประเทศมากขึ้นได้มีการขอร้องให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัยปิดปากและจมูกในที่สาธารณะ

ด้านนายแพทย์ไมเคิล ไรอัน ผู้อำนวยการพิเศษโครงการสาธารณสุขฉุกเฉินของ WHO กล่าวเมื่อวันศุกร์ที่ 3 เมษายน ว่า เราสามารถเห็นสถานการณ์ของผู้คนที่สวมหน้ากากที่ทำจากผ้า และหน้ากากอนามัยที่ทำขึ้นเองในระดับชุมชนซึ่งอาจช่วยในการป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 ได้ อาจมีหลายสถานการณที่คนสวมหน้ากาก อาจช่วยลดอัตราการติดเชื้อจากผู้ที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ด้วยเหตุนี้ เรา-องค์การอนามัยโลกจะสนับสนุนรัฐบาลที่มีความประสงค์ให้ประชาชนใช้หน้ากากอนามัย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ที่ครอบคลุมมากขึ้นในการควบคุมการระบาดของเชื้อโควิด-19

ทั้งนี้ กลยุทธ์ที่ครอบคลุมขององค์การอนามัยโลกในการป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 ในขณะนี้ คือ การเรียกร้องให้ประชาชนล้างมือบ่อยๆ การเว้นระยะห่างทางสังคม (social distancing) และการตรวจสอบว่าติดเชื้อหรือไม่อย่างรวดเร็ว รวมถึงการกักตัวสำหรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 โดยที่ผ่านมา องค์การอนามัยโลกได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับการแนะนำให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัยป้องกันติดโควิด เพราะเกรงว่าหน้ากากอนามัยจะไม่เพียงพอ ประสบปัญหาขาดแคลนสำหรับผู้ที่ติดเชื้อ รวมทั้งบุคลากรทางการแพทย์ที่มีความจำเป็นต้องใช้