ชาวบังกลาเทศนับหมื่นคนรวมตัวกันเพื่อสวดมนต์ขับไล่ไวรัสโควิด-19 และพบผู้เสียชีวิตรายแรก แม้ทางการจะสั่งห้ามชุมนุมเพื่อลดการแพร่กระจายก็ตาม

สำนักข่าว ยาฮู นิวส์ รายงานว่า ชาวบังกลาเทศจำนวนนับหมื่นคนฝ่าฝืนคำสั่งห้ามของรัฐบาล ที่ห้ามชุมนุมในที่สาธารณะเพื่อป้องกันไวรัสโคโรนาสายพันธ์ุใหม่ ไปรวมตัวกันที่โล่งกว้างในเมืองไรปุระ ในเขตลักษมิปุระ ทางใต้ของประเทศเมื่อวันพุธที่ 18 มี.ค. 2563 เพื่อร่วมกันสวดมนต์ขับไล่เชื้อโควิด-19 ออกจากประเทศ

นาย โตตา มิอาห์ ผู้กำกับการตำรวจท้องถิ่น ระบุว่า ชาวมุสลิมประมาณ 10,000 คนมารวมตัวกันเพื่อสวดบทเพื่อการเยียวยาที่เรียกว่า ‘Khatme Shifa’ จากคัมภีร์อัลกุรอาน เพื่อปลดปล่อยประเทศจากไวรัสโควิด-19 ขณะที่ผู้จัดงานอ้างว่ามีคนมาร่วมสวดมนต์ถึง 25,000 คน

อย่างไรก็ตาม นายมิอาห์ยืนยันว่า ผู้จัดพิธีสวดมนต์ไม่ได้รับอนุญาตจากทางการให้จัดงานนี้ขึ้น

ภาพพิธีกรรมดังกล่าวถูกนำไปเผยแพร่บนโลกออนไลน์ เรียกเสียงตำหนิอย่างรุนแรงจากชาวเน็ตที่ได้พบเห็น เช่นผู้ใช้งานเฟซบุ๊กชื่อ อับดูร์ เราะห์มาน ระบุว่า “ไม่อยากเชื่อเลย พวกเขาจัดงานนี้โดยไม่แจ้งกับตำรวจก่อนได้ยังไง? พวกเขาควรต้องรับผิดชอบหากเกิดอะไรขึ้นกับคนในชุมชนนะ”

...

ทั้งนี้ ปัจจุบันบังกลาเทศมีรายงานผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั้งสิ้น 14 รายและเสียชีวิตอีก 1 คน ซึ่งรัฐบาลพยายามควบคุมการแพร่กระจายของเชื้อด้วยการขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงที่ที่มีคนรวมตัวกันมากๆ แต่ชาวบ้านหลายคนกลับฉวยโอกาสนี้เดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ

ทำให้นาย โอไบดุล คูอาเดอร์ แกนนำระดับสูงของพรรครัฐบาล ‘สันนิบาตอวามี’ กล่าวว่า อาจจำเป็นต้องมีการปิดเมืองเพื่อควบคุมไวรัส เพราะความปลอดภัยของประชาชนต้องมาก่อน และพวกเขาจะทำทุกอย่างเพื่อสิ่งนั้น