โจเซพ บอร์เรล รมว.ต่างประเทศสหภาพยุโรป และไมเคิล บาร์เนียร์ หัวหน้าคณะเจรจาสหภาพยุโรป ได้เผยแพร่บทความน่าสนใจ หลังสหราชอาณาจักร(ยูเค) ถอนตัวจากสมาชิกอย่างเป็นทางการ

มีใจความว่า เมื่อ 31 ม.ค. ถือเป็นเหตุการณ์อันน่าเศร้าสำหรับประชากรยุโรปและประชากรชาวอังกฤษหลายๆคน ที่เราได้สูญเสียสมาชิกในครอบครัวของเรา อย่างไรก็ตาม เราเคารพอธิปไตยในการตัดสินใจของชาวอังกฤษทั้ง 52 เปอร์เซ็นต์ และตั้งตารอที่จะเริ่มต้นความสัมพันธ์บทใหม่

โดยหลักการแล้ว วันที่ 1 ก.พ. กลายเป็นวันแห่งประวัติศาสตร์ที่ไม่น่าตื่นตระหนก ซึ่งมีสาเหตุหลักมาจากข้อตกลงการถอนตัวที่ได้มีการเจรจา ทำให้เรามีกระบวนการออกจากสมาชิกภาพสหภาพยุโรปของอังกฤษอย่างเป็นระบบ ช่วยลดการส่งผลกระทบต่อประชากร ธุรกิจ และภาครัฐ รวมถึงหุ้นส่วนนานาชาติของสหภาพยุโรป

ภายใต้ข้อตกลง สหภาพยุโรปและยูเคบรรลุข้อตกลงเรื่องระยะเวลาการเปลี่ยนผ่านซึ่งอย่างน้อยที่สุด จะดำเนินไปจนถึงสิ้นปี 2563 ระหว่างนั้นยูเคจะยังอยู่ภายใต้สหภาพศุลกากรและเป็นส่วนหนึ่งของตลาดร่วมของสหภาพยุโรป ตลอดจนจะยังคงบังคับใช้กฎหมายของสหภาพยุโรป แม้ไม่ได้เป็นสมาชิกแล้ว

นอกจากนี้ ยูเคจะยังคงต้องปฏิบัติตามพันธกรณีในข้อตกลงระหว่างประเทศของสหภาพยุโรปตามที่เราได้แจ้งไว้แล้วอย่างชัดเจนในหนังสือถึงหุ้นส่วนนานาชาติของเรา ช่วงเวลาของการเปลี่ยนผ่านทำให้เกิดความต่อเนื่องในระดับหนึ่ง ซึ่งการบรรลุข้อตกลงดังกล่าวไม่ใช่เรื่องง่าย

การออกจากสหภาพยุโรปนับได้ว่า ยูเคออกจากข้อตกลงระหว่างประเทศหลายร้อยฉบับที่ได้จัดทำโดยหรือในนามของสหภาพยุโรปอย่างอัตโนมัติ ตามกลไก และตามกฎหมาย โดยข้อตกลงระหว่างประเทศดังกล่าวจัดทำขึ้นเพื่อผลประโยชน์ของประเทศสมาชิกในหลากหลายด้าน ทั้งด้านการค้า การบิน การประมงหรือความร่วมมือปรมาณูพลเรือน

...

นับแต่นี้ เราจำเป็นต้องสร้างการเป็นหุ้นส่วนระหว่างสหภาพยุโรปและสหราชอาณาจักรขึ้นมาใหม่ กระบวนการดังกล่าวจะเริ่มขึ้นในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ทันทีที่ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปทั้ง 27 ประเทศให้ความเห็นชอบต่อแนวทางการเจรจาที่คณะกรรมาธิการยุโรปเสนอ

เพื่อกำหนดเงื่อนไขและความมุ่งมั่นของเราที่จะบรรลุความเป็นหุ้นส่วนที่แน่นแฟ้นที่สุดกับประเทศซึ่งจะยังคงเป็นพันธมิตร หุ้นส่วน และเพื่อนของเรา.