นักข่าวเอเอฟพีเห็นเหตุการณ์พอดี พบหญิงสูงอายุล้มลงและเสียชีวิตกลางถนนในเมืองอู่ฮั่น ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรน่าพุ่งเกินกว่า 9,800 ราย WHO ประกาศให้เป็นภาวะฉุกเฉินระหว่างประเทศแล้ว

เมื่อ 31 ม.ค.63 สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานเผยแพร่ภาพสะเทือนใจ หญิงสูงอายุชาวจีนคนหนึ่งซึ่งสวมหน้ากากอนามัยนอนหมดสติและเสียชีวิตอยู่บนถนนใกล้โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย ทางตอนกลางของจีน ซึ่งเป็นศูนย์กลางการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธ์ุใหม่ เมื่อ 30 ม.ค. ที่ผ่านมา สร้างความตื่นตกใจให้แก่หญิงที่ขี่จักรยานและจอดรถดูเหตุการณ์ โดยนักข่าวเอเอฟพีได้เห็นเหตุการณ์นี้พอดี ก่อนที่รถพยาบาลฉุกเฉินจะมาถึงไม่นาน พร้อมตำรวจ-เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ที่สวมชุดป้องกันการติดเชื้ออย่างมิดชิด โดยเบื้องต้น จึงยังไม่ทราบสาเหตุแน่ชัดที่ทำให้หญิงสูงอายุชาวจีนในเมืองหูเป่ยหมดสติและเสียชีวิตอยู่กลางถนนเช่นนี้

...

ด้านรอยเตอร์ และซีเอ็นเอ็น รายงานสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ว่า คณะกรรมาธิการสุขภาพแห่งชาติของจีนยืนยันมีผู้ติดเชื้อเพิ่มเป็น 9,822 รายแล้ว จนถึงเวลา 13.20 น. ของวันที่ 31 ม.ค. หลังจากก่อนหน้า แจ้งจำนวนผู้เสียชีวิตจากเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่อยู่ที่ 213 ราย ขณะที่พบผู้ติดเชื้อในต่างประเทศเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เช่นกัน อย่างเช่น ยอดผู้ติดเชื้อในสิงคโปร์ เพิ่มขึ้นเป็น 13 ราย ญี่ปุ่น 14 ราย ไต้หวัน 9 ราย ฮ่องกง 12 ราย ออสเตรเลีย 9 ราย แคนาดา 3 ราย ฝรั่งเศส 6 ราย เยอรมนี 4 ราย สหรัฐฯ 6 ราย เวียดนาม 5 ราย และอิตาลีพบผู้ติดเชื้อ 2 รายแรก 

ก่อนหน้านี้ นายเทดรอด อัดฮานอม เกเบรเยซัส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลกได้ประกาศที่นครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อ 30 ม.ค.63 ประกาศให้การระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ เป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ (PHEIC) แล้ว ซึ่งเหตุผลสำคัญในการประกาศภาวะฉุกเฉินในครั้งนี้ ไม่ใช่เป็นเพราะสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ที่กำลังเกิดขึ้นในจีน แต่เป็นเพราะพบจำนวนผู้ติดเชื้อในบางประเทศแล้ว 18 ประเทศ