ผู้อ่านท่านที่ชอบประวัติศาสตร์ของเผ่าพันธุ์และชาติรัฐต่างๆ ก็คงจะเห็นเหมือนผมนะครับ ว่าการสิ้นชาติมักมาจากการทะเลาะกันภายใน และฝ่ายหนึ่งไปขอความช่วยเหลือจากประเทศที่ใหญ่กว่า เมื่อปราบปรามศัตรูให้เสร็จแล้ว กองกำลังของประเทศใหญ่ไม่ถอนไปจากแผ่นดินที่เข้ามาช่วย เวลาผ่านไปไม่นาน แผ่นดินนั้นก็ตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของประเทศใหญ่กว่า หรือกลายเป็นอาณานิคม

รัฐบาลกัมพูชายอมให้คนจีนเข้ามาในจังหวัดพระสีหนุและอีกหลายจังหวัดของกัมพูชา ตอนนี้ก็มีปัญหาที่ตำรวจกัมพูชาแก้ไขไม่ได้ เพราะศักยภาพไม่ถึง กลุ่มแก๊งของคนจีนจึงยึดกัมพูชาเป็นฐานที่มั่นในการทำมาหากินทั้งที่ถูกและผิดกฎหมาย

คนกัมพูชาเจ้าของแผ่นดินเดิมแทบจะไม่มีที่ดินทำกิน ที่ดินผืนใหญ่หลายพันหรือเป็นหมื่นไร่กลายเป็นของคนจีนที่เข้ามาเช่าได้นานถึง 99 ปี

เมื่อครบ 99 ปีก็ไม่ต้องเช่าแล้ว คนจีนคงจะคลอดลูกออกหลานถือสัญชาติกัมพูชา และกลายเป็นคนกัมพูชาใหม่ ส่วนลูกหลานของคนกัมพูชาที่เคยเป็นเจ้าของที่ดินดั้งเดิมก็กลายเป็นลูกจ้างทำงานให้คนจีนกัมพูชา

ส่วนประเทศขนาดกลางและเล็กที่เอาตัวรอดได้ในทุกวันนี้ มักจะมียุทธศาสตร์สำคัญป้องกันตนเอง ไม่ยอมให้มหาอำนาจชาติใหญ่ (โดยเฉพาะชาติมหาอำนาจที่อยู่ใกล้เคียง) เข้ามาในแผ่นดินของตนเองเสียแต่แรก

หลังจากที่สหรัฐฯโจมตีขบวนรถ ทำให้นายพลคนสำคัญของอิหร่านตายกลายเป็นผี สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติของอิรักก็มีมติด้วยคะแนนเสียง 170 เสียงให้ขับทหารต่างชาติออกจากประเทศ

ให้ยุติการขอความช่วยเหลือทางทหารจากชาติพันธมิตรที่นำโดยสหรัฐฯในการปราบกลุ่มดาเอซ หรือกองกำลังรัฐอิสลามหรือไอเอส เพื่อไม่ให้ทหารต่างชาติใช้ประโยชน์จากทรัพยากรของอิรักจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม

ประธานาธิบดีทรัมป์ของสหรัฐฯซัดอิรักกลับทันทีว่าไม่ออก “เรามีฐานทัพอากาศที่ราคามูลค่ามหาศาลอยู่ที่นั่น (ในแผ่นดินอิรัก) ใช้งบหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สร้างตั้งแต่ในตอนที่ผมยังไม่อยู่ในตำแหน่ง เราจะไม่ออกไป นอกเสียจากพวกเขา (อิรัก) จะจ่ายเงินคืนให้พวกเรา” พิจารณาจากคำพูดของทรัมป์ สหรัฐฯจะไม่ออกไปจากแผ่นดินอิรัก เพราะสหรัฐฯรู้ว่าอิรักไม่มีปัญญาหาเงินหลายพันล้านดอลลาร์มาคืนสหรัฐฯอย่างแน่นอน

...

ทรัมป์ประกาศว่าจะสร้างหายนภัยให้อิรัก “สหรัฐฯจะคว่ำบาตรอิรักอย่างหนัก แบบที่ทำให้การคว่ำบาตรอิหร่านดูเป็นเรื่องกระจอกงอกง่อยไปเลย”

ฟังทรัมป์ประกาศแล้ว พวกสมาชิกสภาของอิรักก็ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่แบะๆ แอะๆ อ๊ะๆ จ๊ะเอ๋ ออกกฎหมายจากสภาอันทรงเกียรติที่เป็น 1 ใน 3 ของอำนาจสูงสุดของประเทศ แต่ดันเป็นกฎหมายที่ไม่มีอำนาจบังคับ อำนาจไหนๆใดๆของอิรักก็ทำอะไรสหรัฐฯไม่ได้ สภานิติบัญญัติแห่งชาติอิรักกลายเป็นสภาแป๊กที่น่าสมเพชเวทนา

มุสลิมในหลายประเทศก็ออกมาเย้วๆ ประท้วงสหรัฐฯกันใหญ่ ผมอ่านคอมเมนต์ในสื่อโซเชียลมีเดียโดยเฉพาะในซีกโลกตะวันตก ฝรั่งมังค่าที่มีความเป็นคอเคซอยด์นิยมสูงก็อาจจะสะใจ ส่วนเราชาวไทยที่เป็นชนชาติที่มีความเห็นอกเห็นใจในหายนกรรมของมนุษยชาติทุกเผ่าพันธุ์และทุกศาสนา เรารู้สึกเห็นใจมากกว่าสะใจ

ขณะนี้ ทั้งผู้นำอิสราเอลและผู้นำซาอุดีอาระเบียต่างออกมาบอกโลกว่าประเทศของตนไม่ขอเกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ อิหร่านและอิรัก เพราะมันอันตรายมากกว่าที่จะมีประโยชน์

และก็คงจะไม่มีรัฐมนตรีต่างประเทศคนใดบนโลกใบนี้ที่จะออกมาอวดโลกว่าประเทศของตนได้รับทราบจากรัฐบาลสหรัฐฯก่อนที่จะมีการโจมตีเพื่อฆ่านายพลอิหร่าน เพราะนั่นเป็นการประกาศว่าประเทศของตนมีความแนบแน่นกับสหรัฐฯในความขัดแย้งครั้งนี้

หากมีรัฐมนตรีประเทศไหนอวดโลกอย่างนี้ ผมถือว่าท่านทำพลาดที่ไปลากความยุ่งยากเข้ามาในประเทศโดยที่ประเทศของตัวไม่ได้ประโยชน์อะไรเลยจากความขัดแย้ง

เชื่อว่า ฯพณฯ ดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศไทยก็คงไม่ทำด้วยนะครับ.

นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัย
songlok1997@gmail.com

อ่านข่าวเพิ่มเติม