ร่างของนายพล กัสเซ็ม โซไลมานี ผู้บัญชาการหน่วยรบพิเศษคุดส์ ซึ่งถูกสหรัฐฯโจมตีทางอากาศที่สนามบินกรุงแบกแดด ของอิรัก ถึงอิหร่านแล้วเมื่อ 5 ม.ค. ท่ามกลางผู้คนนับพันแต่งชุดดำเดินชุมนุมไว้อาลัยกันอย่างเนืองแน่น และเริ่มจัดพิธีที่เมืองอาห์วาซ ภาคตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ
จากนั้น เจ้าหน้าที่อิหร่านก็จะนำร่างโซไลมานีไปหลายเมือง รวมเมืองมัชฮัด กรุงเตหะรานและเมืองกอมในวันรุ่งขึ้นเพื่อให้ประชาชนร่วมไว้อาลัยก่อนนำร่างไปประกอบพิธีฝังยังบ้านเกิดเมืองเคอร์มาน
ในวันอังคารที่ 7 ม.ค. ด้านทางการอิหร่านเริ่มเปิดศึกด้วยการชักธงแดงเหนือขึ้นสู่ยอดสุเหร่าศักดิ์สิทธิ์ จามคารามเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ซึ่งหมายถึงการประกาศถึงความพร้อมทำสงครามเต็มรูปแบบ
ขณะที่แฮกเกอร์อิหร่านแสดงความรับผิดชอบในการแฮ็กเข้าไปยังเว็บไซต์ของโครงการห้องสมุดรับฝากกลางแห่งสหรัฐฯ หน่วยงานที่ไม่เป็นที่รู้จักนักของรัฐบาลสหรัฐฯ หลังบนหน้าเพจของเว็บไซต์
ขึ้นหัวข้อว่า “แฮกเกอร์ชาวอิหร่าน” พร้อมแสดงภาพของอะยาตอลเลาะห์ อาลี คาไมนี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน และธงชาติอิหร่าน กับภาพกราฟิกของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ถูกจรวดของอิหร่านยิงใส่
...
อย่างไรก็ตาม นายทรัมป์ทวีตขู่ว่าจะโจมตี 52 จุดสำคัญของอิหร่าน ซึ่งเป็นจำนวนที่ชาวอเมริกันเคยถูกอิหร่านจับเป็นตัวประกันเมื่อหลายปีก่อน ถ้าบังอาจโจมตีตอบโต้ผลประโยชน์ของสหรัฐฯ โดยเสริมว่าจะโจมตีแบบเร็วและสาหัสกว่าที่เคยเป็นมาด้วยยุทโธปกรณ์รูปแบบใหม่ได้อย่างไม่ลังเล
ขณะเดียวกัน ชาวอเมริกันในหลายหัวเมือง ทั้งในกรุงวอชิงตัน นครนิวยอร์ก และชิคาโกออกมาชุมนุมประท้วงตามท้องถนนเพื่อประณามการตัดสินใจของนายทรัมป์ที่สั่งสังหารโซไลมานี และยังเสริมทัพอีก 3,000 นาย เข้าไปยังตะวันออกกลาง โดยเรียกร้อง ให้ถอนกำลังออกเพื่อไม่ให้บุ่มบ่ามเกิดสงคราม
วันเดียวกัน ผู้นำหลายประเทศเริ่มหาทางเจรจากับอิรักและอิหร่านหวังลดทอนความตึงเครียดระหว่างอิหร่านกับสหรัฐฯ ไม่ว่าจะเป็นเยอรมนี ฝรั่งเศส ซึ่งนอกจากประธานาธิบดี เอ็มมานูเอล มาครง แห่งฝรั่งเศส เตรียมนัดเจรจากับประธานาธิบดี บาร์ฮัท ซาลีห์ แห่งอิรักแล้ว มาครงยังถกถึงแผนพัฒนาตะวันออกกลางมกุฎราชกุมาร ชีค โมฮัมหมัด บิน ซาเยด อัล-นาห์ยาน แห่งรัฐอาบู ดาบี สหรัฐอาหรับ เอมิเรตส์
ส่วนสหราชอาณาจักรเตรียมเคลื่อนเรือพิฆาต เอชเอ็มเอส มอนโทรส กับเอชเอ็มเอส ดีเฟนเดอร์ เพื่อคุ้มกันเรือบรรทุกสินค้าสัญชาติอังกฤษที่ล่องผ่านช่องแคบฮอร์มุซ ซึ่งเป็นการเตรียมความพร้อมความตึงเครียดเร็วขึ้นระหว่างอิหร่านกับสหรัฐฯ.