ศาลปราบปรามทุจริตคอร์รัปชันฟิลิปปินส์ ตัดสินยกฟ้องคดีดัง ยึดทรัพย์ 3.9 พันล้านดอลลาร์ หรือกว่า 1 แสนล้านบาทของครอบครัวตระกูลมาร์กอส ที่คาอยู่ในศาลมานาน 32 ปี ชี้หลักฐานไม่เพียงพอ
เมื่อ 17 ธ.ค.62 สำนักข่าวรอยเตอร์รายงาน ศาลปราบปรามการทุจริตและคอร์รัปชันของฟิลิปปินส์ตัดสินยกฟ้องคดียึดทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับครอบครัวของอดีตประธานาธิบดีเฟอร์ดินัลด์ มาร์กอส ผู้ล่วงลับและคดีได้ค้างคาอยู่ในชั้นศาลมานานนับ 32 ปี พร้อมทั้งยังสั่งให้คืนทรัพย์สินนับ 3.9 พันล้านดอลลาร์ หรือราว 1.18 แสนล้านบาท ที่อายัดไว้คืนให้แก่ตระกูลมาร์กอสด้วย เนื่องจากเห็นว่าหลักฐานต่างๆ ไม่มีน้ำหนักเพียงพอ เมื่อวันจันทร์ที่ 16 ธ.ค.ที่ผ่านมา
...
รอยเตอร์ระบุว่า คณะผู้พิพากษาของศาลปราบปรามการทุจริตและคอร์รัปชันของฟิลิปปินส์ได้ตัดสินยกฟ้องคดีต่างๆ ของครอบครัวตระกูลมาร์กอส เป็นครั้งที่ 4 นับตั้งแต่เดือนสิงหาคม ที่ผ่านมา โดยชี้ว่า สำเนาเอกสารต่างๆ ที่ฝ่ายโจทก์นำมาใช้เป็นหลักฐานนั้น ไม่สามารถนำมาใช้เป็นหลักฐานในคดีได้ ในขณะที่การยกฟ้องคดีล่าสุดนี้ ถือเป็นคดีสำคัญที่สุดโดยคณะทำงานพิเศษของประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ ที่พยายามจะอายัดทรัพย์สินของตระกูลมาร์กอส ราว 1 หมื่นล้านดอลลาร์ ที่ถูกกล่าวหาว่าได้มาจากการทุจริตคอร์รัปชัน ระหว่างอดีตประธานาธิบดีมาร์กอสกุมอำนาจบริหารประเทศยาวนานนับ 20 ปี และมีการประกาศใช้กฎอัยการศึกนานถึง 14 ปี
ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการ ด้านธรรมาภิบาลของประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ ได้ยื่นฟ้องต่อศาลปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชัน เพื่อพยายามให้ครอบครัวของอดีตประธานาธิบดีมาร์กอส คืนทรัพย์สิน 200,000 ล้านเปโซ หรือประมาณ 3.93 พันล้านดอลลาร์ ในช่วง 20 ปีที่อดีตประธานาธิบดีมาร์กอสครองอำนาจ โดยทรัพย์สินเหล่านี้ มีทั้งเงินฝากมหาศาลในธนาคารทั้งในประเทศและต่างประเทศ บ้านในสหรัฐฯ และสหราชอาณาจักร ภาพวาด 177 ภาพ และเครื่องเพชรเครื่องประดับอัญมณี 42 ลัง มูลค่าเกือบ 9 ล้านดอลลาร์
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้อดีตประธานาธิบดีมาร์กอสได้ถูกประชาชนออกมาประท้วงขับไล่ในปี 2529 จนต้องหลบหนีออกนอกประเทศและลี้ภัยอยู่ในสหรัฐฯ ก่อนเสียชีวิตด้วยวัย 72 ปี เมื่อปี 2532 ที่ฮาวาย แต่สมาชิกในครอบครัวมาร์กอส ยังคงโลดแล่นอยู่ในเวทีการเมืองของฟิลิปปินส์ โดยนางอีเมลดา มาร์กอส ภรรยาม่ายของนายมาร์กอส เคยดำรงตำแหน่งสมาชิกรัฐสภาถึง 4 สมัย ส่วนบุตรสาว อีมี ปัจจุบันเป็นวุฒิสมาชิก ส่วนบุตรชาย เฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ หรือ ‘บองบอง’ก็อาจจะลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในการเลือกตั้งปี 2564