พ.ศ.2561 ร.ต.อ.ดร.นิติภูมิธณัฐ มิ่งรุจิราลัย เดินทางเข้าเมืองจีนทั้งปี และตระเวนไปในมากมายหลากหลายมณฑล โดยเฉพาะมณฑลที่ปลูกกัญชง

เดือนพฤษภาคม 2562 พ่อได้รับเชิญให้ไปดูการก่อสร้างโรงงานสกัดสาร CBD หรือ cannabidiol จาก hemp หรือต้นกัญชงที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่นิคมอุตสาหกรรมในนครคุนหมิง มณฑลหยุนหนาน โรงงานนี้เป็นของบริษัท หยุนหนาน เฮมพ์มอน ฟาร์มาซูติคอลส์ จำกัด ซึ่งเคยเป็นเจ้าของโรงงานผลิตสาร CBD ที่ใหญ่ที่สุดในโลกมาก่อนหน้านี้แล้ว 1 โรง แต่ในช่วงนั้น ผลิตสาร CBD ได้เพียงปีละ 3 ตันก็ถือว่าใหญ่ที่สุดในโลกแล้ว

เมื่อโลกตื่นตัวเรื่องการใช้สาร CBD ในอุตสาหกรรมยาและผลิตภัณฑ์ต่างๆ บริษัทฯ จำเป็นต้องขยายงานด้วยทุนจำนวนหลายหมื่นล้านบาท เพื่อให้สามารถผลิตสาร CBD ได้อย่างเพียงพอต่อความต้องการของทั้งโลก และจำเป็นต้องดึงสถาบันการศึกษาของรัฐอันดับ 1 ในจีนอย่างมหาวิทยาลัยชิงหัวมาเป็นหุ้นส่วนใหญ่ ซึ่งมหาวิทยาลัยชิงหัวถือหุ้นถึงร้อยละ 61 เพื่อให้ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลกลางและรัฐบาลท้องถิ่น โดยมีศิษย์เก่าทางแมคคานิกส์และหุ่นยนต์ที่มีชื่อเสียงของมหาวิทยาลัยอย่าง มร.ลีโอ หยู เป็นประธานบริษัท

ทราบว่ามหาวิทยาลัยฯมีงบวิจัยและพัฒนา รวมทั้งงบอื่นๆ ที่ให้ในเรื่องการสกัดสาร CBD และสารอื่นจากพืช รวมทั้งหมดมากถึง 1 หมื่นล้านหยวน หรือ 5 หมื่นล้านบาทไทย

ความมุ่งหวังตั้งใจจากการทุ่มเทของภาครัฐและภาคเอกชนก็คือ ต้องการให้โรงงานในมณฑลหยุนหนานแห่งนี้ผลิตสาร CBD ได้มากถึงปีละหลายสิบตันไปจนมากถึง 200 ตัน

การมาเยือนการก่อสร้างโรงงานเมื่อเดือนพฤษภาคม 2562 มร.หยูยังพาพ่อและผมนั่งรถตระเวนดูสถานที่ปลูกกัญชงทั้ง 12 ตำบลของอำเภอฝูเจ๋อเฮย มณฑลหยุนหนาน และยังมีการนำข้อมูลมาเขียนในคอลัมน์เปิดฟ้าส่องโลกและนำภาพไปออกรายการ World Beyond เดินทางสร้างชาติ ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 ด้วย

...

หลังจากนั้น อีก 3 เดือนถัดมา การดำเนินงานด้านการก่อสร้าง การเพาะปลูก และการตลาดด้าน CBD ของบริษัทฯ ก็ดำเนินไปอย่างเข้มข้น และเมื่อวันจันทร์ที่แล้ว 26 สิงหาคม 2562 มร.หยูและคณะกรรมการบริษัทฯ เชิญพ่อและผมมาเยือนสถานที่ก่อสร้าง และตระเวนดูแปลงผลิตกัญชงในอำเภอต่างๆของมณฑลหยุนหนานอีกครั้ง คราวนี้ให้ไปเยือนแปลงกัญชงที่ตำบลจานอี้ อำเภอฉวีจิ้งเมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2562 และได้ไปใช้ชีวิตช่วงหนึ่งกับพี่น้องเกษตรกรชาวจีนผู้ปลูกกัญชง

เมื่อสอบถามเกษตรกรว่า ถ้าจะปลูกกัญชงในจีนจะเริ่มยังไง ได้รับคำตอบว่า เริ่มจากการไปขออนุญาตจากราชการ ซึ่งการอนุญาตไม่ยุ่งยาก ไม่ต้องวิ่งเต้น การปลูกกัญชงไม่ปิดกั้น เมื่อได้ผลผลิตมาแล้วก็นำไปขายให้โรงงานสกัดสาร CBD ซึ่งโรงงานของบริษัท หยุนหนาน เฮมพ์มอน ฟาร์มาซูติคอลส์ จำกัด เป็นหนึ่งในบรรดาโรงงานที่รับซื้อต้นกัญชงจากเกษตรกรผู้ปลูกกัญชงชาวจีน

กัญชงมีชื่อภาษาอังกฤษว่า Hemp มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Cannabis sativa L. Subsp.savita เมื่อเข้าไปในไร่กัญชง ช่างภาพของเราก็ถ่ายอะไรไม่เห็นเพราะต้นกัญชงสูงปกคลุมทั่วทั้งบริเวณ สอบถามได้ความว่า ดินในตำบลจานอี้มีสีแดง มีแร่ธาตุสมบูรณ์ ทำให้ต้นกัญชงที่ปลูกในตำบลนี้สูงมาก ส่วนใหญ่จะสูงเกือบ 3 เมตร เมื่อปลูกติดกันเป็นจำนวนมากก็ทำให้ต้นกัญชงปกคลุมพื้นที่เป็นบริเวณกว้าง เราได้แต่เดินในดงกัญชงที่เห็นแต่ใบ 7-9 แฉก สีเขียวอมเหลืองเท่านั้นเองครับ

ท่านใดอยากเห็นต้นกัญชง ไร่กัญชง และชีวิตของเกษตรกรผู้ปลูกกัญชงชาวจีน เข้าไปในไลน์แอทไอดี @LGJ0596P หรือกดลิงก์ https://line.me/R/ti/p/.%40lgj0596p ซึ่งในห้วง 7 วันที่ผ่านมาเพื่อนไลน์แอท @LGJ0596P จำนวน 44,181 คน ได้เห็นทั้งภาพและได้อ่านสถานการณ์ CBD ของจีนและของโลกกันไปแล้ว ท่านที่เพิ่มเข้าไปใหม่ก็ต้องเลื่อนไปเปิดดูย้อนหลังกันนะครับ

ผมกับพ่อยังอยู่ที่เมืองจีนและจะติดตามเรื่องนี้มารับใช้ผู้อ่านท่านที่เคารพกันอย่างต่อเนื่องครับ.

นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัย