พ.ศ.2561 ทีมงานเปิดเลนส์ส่องโลกไปดูการสร้างทางรถไฟ จากตอนใต้ของจีนมายังกรุงเวียงจันทน์ และการสร้างมอเตอร์เวย์จากนครหลวงพระบางมายังกรุงเวียงจันทน์มากถึง 3 รอบ บางรอบได้รับการบรรยายสรุปจากท่านผู้เกี่ยวข้อง จึงมองเห็นว่า หลังจากทางรถไฟจากจีนลงมาลาวและมอเตอร์เวย์หลวงพระบาง-เวียงจันทน์เสร็จเรียบร้อย สปป.ลาวจะเป็นอีกประเทศหนึ่งที่เศรษฐกิจจะบูมตูมตาม จากการเดินทางมาเยือนของนักท่องเที่ยวจีน
ถึงตอนนั้น เราอาจจะเสียดายที่ไม่ได้ทุ่มเทให้ความสนใจกับการค้าการลงทุนในลาวเท่าที่ควร ทั้งที่เราได้เปรียบผู้คนจากประเทศอื่นทุกอย่าง คนลาวกับคนไทยพูดภาษาที่เข้าใจกันได้ คนลาวชอบดูทีวีไทย อ่านนิตยสาร และฟังวิทยุไทย ชอบสินค้าไทย วัฒนธรรมประเพณีก็คล้ายกัน และมีประวัติศาสตร์ร่วมกันมาอย่างยาวนาน
ลาวทุ่มเทพัฒนามากในทุกด้าน มีการปฏิรูปกฎหมาย โดยเฉพาะกฎหมายการลงทุน พัฒนาตลาดหลักทรัพย์ และมีแผนพัฒนาให้ผู้คนพ้นความยากจน เมื่อก่อนคนลาวเดินทางข้ามมาซื้อสินค้าในฝั่งไทยเป็นจำนวนมาก แต่ปัจจุบันเดินทางมาน้อยลงเพราะมีการเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มของลาวในอัตราร้อยละ 10 แถมมีกระบวนการทั้งเอกสารสำหรับการนำเข้า-ส่งออกซับซ้อนและใช้เวลานานมากขึ้น
จีนให้ความสนใจลาวและกัมพูชาเป็นอย่างมาก เข้ามาทุ่มทุนมหาศาลทำให้เศรษฐกิจของลาวขยายตัว พ.ศ.2560 เพียงปีเดียว มีรถบรรทุกทุกประเภทจดทะเบียนเพิ่มขึ้นถึง 8 แสนคัน เฉลี่ยเพิ่มขึ้นเดือนละ 5 พันคัน สนามบินวัดไตที่แต่เดิมรองรับผู้โดยสารได้เพียง 1.5 ล้านคนต่อปี ก็มุ่งพัฒนาขึ้นมาจนสามารถรองรับผู้โดยสารได้ 3 ล้านคนต่อปี
ความใฝ่ฝันปรารถนาของลาวก็คือ ต้องการจะเปลี่ยนสถานะของประเทศจากแลนด์ล็อกเป็นแลนด์ลิงก์ เปลี่ยนประเทศที่ไม่มีทางออกทะเลเป็นประเทศศูนย์กลางที่เชื่อมทุกประเทศในภูมิภาคเข้าด้วยกัน สมัยก่อนตอนโน้น ทีมงานเปิดเลนส์ส่องโลกเดินทางด้วยรถยนต์จากด่านบ่อหานมายังเวียงจันทน์ใช้เวลานานถึง 2 วัน หลังจากที่รถไฟความเร็วสูงจีน-ลาว 414 กิโลเมตร เสร็จใน พ.ศ.2565 จะทำให้การเดินทางย่นเหลือ 3 ชั่วโมงเท่านั้น
...
ตัวเลขจากการศึกษาพบว่า หลังจากรถไฟจีน-ลาวเสร็จเรียบร้อย จำนวนนักท่องเที่ยวที่มาเยือนลาวจะเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว พ.ศ.2560 ลาวมีนักท่องเที่ยวเพียง 5 ล้านคน หลังจาก พ.ศ.2565 การศึกษาพบว่านักท่องเที่ยวจะมาเยือนลาว 10-20 ล้านคน เมื่อก่อนนักศึกษาลาวนิยมมาศึกษาต่อในประเทศไทย แต่ขณะนี้มีการเตรียมนักศึกษาลาวไปศึกษาในประเทศจีนเพิ่มขึ้น พ.ศ.2559 จำนวนนักศึกษาลาวไปเรียนที่จีนมีเพียง 1 หมื่นคน การเตรียมทรัพยากรมนุษย์ชาวลาวทางด้านจีนศึกษาเพิ่มขึ้นเป็น 5 หมื่นคน และคาดการณ์ว่านักศึกษาลาวจะแห่กันไปเรียนที่จีนเพิ่มเป็น 1 แสนคนในอนาคตอันใกล้
คุณปาจรีย์ สหายสุข (พลศิลป) และทนายพิเชษฐ์ ไชยกูร จากสมาคมธุรกิจการค้า การลงทุนไทย-ลาว และบริษัท เค.ที.
ซิสเต็ม แอนด์ เซอร์วิส จำกัด เดินทางมาพบ ร.ต.อ.ดร.นิติภูมิธณัฐ มิ่งรุจิราลัย เพื่อเชิญบรรยายเรื่อง “ทำไมต้องไปทำการตลาดที่ สปป.ลาว รับใช้นักธุรกิจรุ่นใหม่ที่โรงแรมเดอะ บาซาร์ แบงค็อก ถ.รัชดาภิเษก กรุงเทพฯ เวลา 13.00-17.00 น. ในวันเสาร์พรุ่งนี้
นอกจากนั้น ยังเชิญไปในงาน Thai-Lao Exhibitions ซึ่งเป็นการจัดแสดงสินค้า ธุรกิจ การค้า การลงทุน ไทย-ลาว ที่ศูนย์การค้าขนาดใหญ่ในกรุงเวียงจันทน์ชื่อปากซันเซ็นเตอร์ทราบว่าอาจารย์นิติภูมิธณัฐรับปากเจ้าภาพทั้ง 2 คน ที่มาเชิญ เพราะต้องการเป็นส่วนหนึ่งในการกระตุ้นให้สังคมไทยตระหนักถึงตลาดประเทศเพื่อนบ้าน
บางคนอาจจะคิดว่าลาวเป็นประเทศที่มีประชากรก็น้อยตลาดก็เล็ก แรงงานไม่มาก ก็อาจจะไม่สนใจ แต่ขอเรียนรับใช้ว่า โปรดอย่าใกล้เกลือกินด่าง ลาวเป็นประเทศที่ซ่อนศักยภาพทางเศรษฐกิจไว้อย่างที่เราบางคนคาดไม่ถึง วันหนึ่งในอนาคต เราอาจจะเสียดายหากคนจีนเข้ามาประสบความสำเร็จใน สปป.ลาว
อยากให้สนใจลาวเพิ่มขึ้นครับ.
นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัย
songlok1997@gmail.com