ไซโคลน ฟานิ ที่เคลื่อนตัวขึ้นฝั่งประเทศอินเดียเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา สร้างความเสียหายอย่างหนักให้กับหลายพื้นที่ของประเทศ แต่ความเสียหายต่อชีวิตน้อยกว่าที่กลัวกันเพราะมาตรฐานอพยพได้ผล...
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อ 4 พ.ค. 2562 ว่า ทางการอินเดียออกมาชื่นชมมาตรการอพยพของพวกเขาว่า ประสบความสำเร็จอย่างมาก เพราะช่วยให้ประชาชนมากกว่า 1 ล้านคนทั่วประเทศ รอดพ้นจากอันตรายจากไซโคลน ‘ฟานิ’ พายุกำลังแรงที่เคลื่อนตัวขึ้นฝั่งเมืองปุริ ในรัฐโอริสสา ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
ข่าวระบุว่า อิทธิพลของไซโคลน ฟานิ ทำให้เกิดคลื่นพายุหนุนซัดฝั่ง หรือ ‘สตอร์มเซิร์จ’ และลมแรง ในรัฐโอริสสา ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมหมู่บ้านอย่างน้อย 36 แห่งมีบ้านเรือนถูกทำลายกว่า 2,000 หลัง โดยเฉพาะที่เมืองปิรุ อย่างไรก็ตาม มีรายงานผู้เสียชีวิต 8-12 คนเท่านั้น ซึ่งน้อยกว่าที่กลัวกันมาก
...
นายอรุณ โพธรา ผู้บัญชาการตำรวจรัฐโอริสสาออกมาชื่นชมความพยายามในการช่วยเหลือประชาชนของเจ้าหน้าที่ “มีความเสียหายเกิดขึ้นมากมายมหาศาล...แต่ยังโชคดีที่มีผู้คนที่คาดการณ์ถึงเรื่องนี้ และแจ้งความเคลื่อนไหวของพายุกับเราแบบนาทีต่อนาที รัฐบาลจึงสามารถอพยพประชาชน 1.2 ล้านคนได้ ในส่วนของการอพยพก็ประสบความสำเร็จมาก และมีผู้บาดเจ็บล้มตายน้อยมากๆ”
นายโพธรา กล่าวอีกว่า ตอนนี้อินเดียกำลังอยู่ในขั้นตอนของการนำประชาชนกลับสู่ถิ่นฐานของตัวเอง ซึ่งอาจใช้เวลาอีก 4-5 วัน ก่อนจะเริ่มงานใหญ่คือการฟื้นฟูสิ่งปลูกสร้างที่ได้รับความเสียหาย
ทั้งนี้ ไซโคลนฟานิเคลื่อนตัวเข้าสู่เมืองปุริในช่วงเช้ามืดวันศุกร์ ก่อนจะเดินทางต่อไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือสู่บังกลาเทศ และอ่อนกำลังลงในวันเสาร์ เหลือระดับพายุดีเปรสชัน ความเร็วลมสูงสุด 70 กม./ชม. แต่อิทธิพลของมันยังทำให้หลายสิบหมู่บ้านตามชายฝั่งของบังกลาเทศถูกน้ำท่วม มีผู้เสียชีวิตแล้ว 4 ราย บาดเจ็บอีก 63 ราย และต้องอพยพประชาชนมากกว่า 1 คน