นักการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยของเกาหลีใต้สมัยเมื่อ 40 ปีที่แล้วถูกฝ่ายรัฐบาลทหารจับกุมคุมขังเป็นจำนวนมาก คนไหนไม่ถูกจับก็ถูกตัดสิทธิทางการเมือง ฝ่ายรัฐบาลของเกาหลีใต้สมัยนั้นมีอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดและปราบปรามผู้เห็นต่างจากรัฐบาลอย่างจริงจัง การถ่วงดุลอำนาจและการตรวจสอบแทบจะไม่มีเลย
การเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2524 รัฐธรรมนูญยังกำหนดให้ใช้ระบบคณะผู้เลือกตั้ง 5,277 คน นายพลชอนดูฮวานฝ่ายสืบทอดอำนาจเผด็จการได้คะแนนมากถึง 4,755 คน จึงได้เป็นประธานาธิบดี
พอถึง 25 มีนาคม 2524 ก็มีการเลือกตั้งสมาชิกสมัชชาแห่งชาติครั้งที่ 11 ก่อนหน้านั้น รัฐบาลทหารของนายพลชอนดูฮวานทำ 2 อย่าง คือ ทำให้นักการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยอ่อนแอและให้ทหารไปตั้งพรรคการเมืองที่หนุนทหารขึ้นมา
รัฐบาลทหารเกาหลีใต้สมัย พ.ศ.2524 จับกุมคุมขังนักการเมืองซีกประชาธิปไตยจำนวนมาก หลายคนโดนตัดสิทธิ หลายคนโดนคดีจนหมดคุณสมบัติในการเล่นการเมืองต่อ นักการเมืองซีกประชาธิปไตยจึงอ่อนแอมาก
นายพลชอนดูฮวานและทหารสั่งให้สำนักงานคณะกรรมการความมั่นคงแห่งชาติไปตั้งพรรคการเมืองที่หนุนรัฐบาล นั่นคือพรรคยุติธรรมประชาธิปไตย จากนั้นก็ดูดนักการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยบางคนที่โดนคดีหรือญาติโดนคดีความให้มาอยู่ในพรรคยุติธรรมประชาธิปไตยเพื่อแลกกับความช่วยเหลือไม่ให้ต้องได้รับโทษ
พรรคฝ่ายค้านซึ่งเป็นฝ่ายประชาธิปไตยและฝ่ายก้าวหน้าในตอนนั้นคือพรรคเกาหลีประชาธิปไตย พรรคชาติเกาหลีใต้ และพรรคสังคมประชาธิปไตย
ผลการเลือกตั้ง พรรคยุติธรรมประชาธิปไตยได้ 90 ที่นั่ง เมื่อรวมกับคะแนนเสียงแบบสัดส่วนทั้งประเทศอีก 61 ที่นั่ง ก็ทำให้พรรคที่หนุนรัฐบาลที่สืบอำนาจเผด็จการมีที่นั่งมากถึง 151 ที่นั่ง ส่วนพรรคเกาหลีประชาธิปไตยได้ 57 ที่นั่ง พรรคชาติเกาหลีใต้ได้ 18 ที่นั่ง และพรรคสังคมประชาธิปไตยได้ 2 ที่นั่ง รวมแล้วฝ่ายประชาธิปไตยได้คะแนนเพียง 77 ที่นั่ง
...
คนเกาหลีใต้ทั้งประเทศจึงต้องทนอยู่กับการปกครองแบบเดิมอีก 4 ปี (พ.ศ.2524-2528) หลังจากการเลือกตั้งเสร็จตอนแรกๆ ฝ่ายประชาธิปไตยหงอยเหงาเศร้าสร้อยมาก ต่างคิดว่าประเทศของตัวเองคงจะต้องอยู่ใต้อำนาจเผด็จการตลอดไปซะแล้ว
แต่ต่อมา ผู้คนฝ่ายประชาธิปไตยรวมกลุ่มกันเพื่อสนับสนุนนายคิมแดจุงและนายคิมยองซัม คนพวกนี้ก็ตกลงกันว่า เราอย่าแข่งกันเองเลย การเลือกตั้งสมาชิกสมัชชาแห่งชาติครั้งที่ 12 จะมีใน พ.ศ.2528 ขอให้ฝ่ายประชาธิปไตยทุกคนช่วยพรรคประชาธิปไตยเกาหลีใหม่ ขอให้พรรคการเมืองพรรคนี้เป็นตัวแทนของฝ่ายประชาธิปไตยทั้งมวล
พอพวกประชาธิปไตยรวมตัวกันได้ พวกสืบทอดอำนาจเผด็จการก็อยู่ลำบาก ในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งทั่วไปครั้งที่ 12 ที่เลือกกันในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2528 ผู้สมัครของพรรคยุติธรรมประชาธิปไตยไปหาเสียงที่ไหน นักศึกษาเกาหลีใต้ก็ไปตะโกนด่าทอต่อต้าน แต่ถ้าผู้สมัครของพรรคประชาธิปไตยเกาหลีใหม่ไปหาเสียงที่ไหน นักศึกษาก็ไปตะโกนเชียร์กันอื้ออึง
ผลการเลือกตั้ง พรรคยุติธรรมประชาธิปไตยได้ 88 ที่นั่ง เมื่อรวมคะแนนสัดส่วนแล้วได้ 149 ที่นั่ง พรรคประชาธิปไตยเกาหลีใหม่ได้ 50 ที่นั่ง รวมแบบระบบสัดส่วนแล้วได้ 67 ที่นั่ง พรรคเกาหลีประชาธิปไตยได้ 26 ที่นั่ง รวมแบบสัดส่วนด้วยได้ 35 ที่นั่ง พรรคชาติเกาหลีได้ 14 ที่นั่ง รวมระบบสัดส่วนแล้วได้ 19 ที่นั่ง
แม้ว่าพรรคสืบทอดอำนาจเผด็จการจะได้คะแนนมาเป็นอันดับ 1 แต่คะแนนเสียงลดไปจากเดิมมาก พรรคใหม่ที่เพิ่งตั้งเพียง 1 เดือนก่อนการเลือกตั้งอย่างพรรคประชาธิปไตยเกาหลีใหม่กลับได้คะแนนมากในเมืองหลวงและหัวเมืองหลัก
ฝ่ายประชาธิปไตยของเกาหลีใต้จึงเริ่มมีความหวัง ทุกคนในฝ่ายนี้เห็นตรงกันว่าอุปสรรคที่สุดของการช่วยกันทำให้เกาหลีใต้เป็นประชาธิปไตยก็คือ ‘รัฐธรรมนูญที่ไม่เป็นประชาธิปไตยสากล’ จึงเห็นพ้องต้องกันว่าจะต้องรณรงค์แก้ไขรัฐธรรมนูญ แม้ว่าจะยากเย็นแสนเข็ญอย่างไรก็ตาม
จากนั้นก็มีการประท้วงรัฐบาลกันบ่อย มีผู้คนบาดเจ็บล้มตายจำนวนไม่น้อยกว่าสมัชชาแห่งชาติจะผ่านร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญและนำไปให้ประชาชนลงมติเมื่อ 27 ตุลาคม 2530 ประชาชนเกาหลีใต้เห็นชอบมากถึงร้อยละ 93.1
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เกาหลีใต้จึงมีประชาธิปไตยสากลสมบูรณ์.
นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัย
songlok1997@gmail.com