พวกนีโอฟาสซิสต์ยกย่องนายโดนัลด์ ทรัมป์ เหมือนกับพวกฟาสซิสต์ยกย่องอดอล์ฟ ฮิตเลอร์ คำพูดและการปฏิบัติของทรัมป์ถูกนำไปอภิปรายขยายผลจนพวกที่นิยมมนุษย์ผิวขาวสุดโต่งถือว่าทรัมป์เป็นไอดอล เมื่อเราขุดจากประวัติก็พบว่าพ่อของทรัมป์ มาจากเยอรมนี ซึ่งเป็นประเทศที่ผู้นำเคยมีการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ชาวยิวนับล้านคนในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
นายทรัมป์เคยเสนอไม่ให้มุสลิมเข้าประเทศ ซึ่งเป็นเรื่องของการเหยียดศาสนา ที่ทำให้คนอเมริกันที่นับถือศาสนาอิสลามถูกแบ่งแยกออกจากคนอเมริกันส่วนใหญ่ คำประกาศของทรัมป์หลายประโยคทำให้เกิดนโยบายแบ่งแยกและเลือกปฏิบัติ ในยุคของทรัมป์นี่แหละครับที่รัฐบาลสหรัฐฯ ไม่อนุญาตให้มีการชุมนุมของมุสลิมในมัสยิดทั่วประเทศ
มีหลายประโยคที่ทรัมป์ใช้พูดในระหว่างการหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีได้สร้างความแตกแยกในสังคมอเมริกัน เมื่อพูดถึงมาตรการห้ามมุสลิมเข้าสหรัฐฯ ทรัมป์ใช้คำว่า Total Shutdown มีหลายครั้งที่ทรัมป์พูดว่า Islam hates us ‘อิสลามเกลียดเรา’ หรือ Radical Islam ที่สื่อถึง ‘อิสลามหัวรุนแรง’ หลังจากทรัมป์ชนะเลือกตั้งก็เกิดความชอบธรรมทางสังคมในการต่อต้านมุสลิมในสหรัฐฯ ในหลายพื้นที่ ผู้หญิงมุสลิมที่คลุมฮิญาบถูกคุกคามและกระทำอาชญากรรม
ความคิดและนโยบายของทรัมป์กระตุ้นกระแสอิสลามโมโฟเบีย หรือกระแสเกลียดกลัวอิสลามขึ้นอย่างมากในสหรัฐฯ พวกขวาจัดและกลุ่มคนที่นิยมผิวขาวนำคำพูดของทรัมป์ไปตีความเพื่อสนับสนุนการต่อต้านมุสลิมอย่างเปิดเผย มีการเผาศูนย์กลางอิสลามในรัฐเท็กซัส เมื่อ 29 มกราคม 2560 มีการยิงผู้นำศาสนาอิสลาม เช่น การยิงอิหม่ามเชื้อสายบังกลาเทศในมหานครนิวยอร์ก มีการทำร้ายร่างกาย ด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคายของชาวผิวขาวต่อครอบครัวมุสลิม
...
มุสลิมอเมริกันครอบครัวหนึ่งพักผ่อนอยู่ที่ชายหาดในรัฐเท็กซัส ชายหนุ่มอเมริกันเดินเขย่าอวัยวะเพศของตัวไปที่ครอบครัวมุสลิมนั้นแล้วพูดว่า ‘โดนัลด์ ทรัมป์จะหยุดพวกเอ็ง ไอซิสไม่ได้มีความหมายกับข้าเลย กฎหมายชาริอะห์ของพวกเอ็งมันเลว และไม่สามารถหยุดความเป็นคริสเตียนของข้าได้ ประเทศของข้าใหญ่ที่สุดในโลก และจะยิ่งใหญ่อย่างนี้ตลอดไป’
พฤษภาคม 2560 มุสลิมสาวอเมริกัน 2 คน ถูกนายเจเรอมี คริสเตียน ชายอเมริกันขู่ให้ออกจากรถไฟที่จอดเทียบสถานีที่เมืองพอร์ตแลนด์ รัฐโอเรกอน โดยนายเจเรอมี คริสเตียนตะโกนว่า ‘มุสลิมทุกคนต้องตาย’ พร้อมชักมีดออกมาข่มขู่หญิงสาวมุสลิมทั้งสอง มีพลเมืองดี 2 คนเข้าห้าม นายเจเรอมี คริสเตียนใช้มีดกระหน่ำแทงผู้ที่เข้าห้ามจนตายทั้ง 2 คน ปรากฏการณ์ลักษณะอย่างนี้เกิดขึ้นทั่วไปในสหรัฐฯ และลามไปสู่ประเทศอื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในออสเตรเลีย
กลางมหานครซิดนีย์ รัฐนิวเซาท์เวลส์ เครือรัฐออสเตรเลีย พวกรีเคลมออสเตรเลีย (Reclaim Australia) ซึ่งเป็นกลุ่มต่อต้านอิสลามจัดชุมนุมเพื่อแสดงการสนับสนุนความคิดและนโยบายของนายทรัมป์
30 มกราคม 2560 มุสลิมกำลังละหมาดอยู่ที่มัสยิดแห่งหนึ่งในเมืองควิเบก รัฐควิเบกของแคนาดา นักศึกษาลูกครึ่งแคนาดา-ฝรั่งเศสที่มีความคิดชื่นชมนายทรัมป์และนางมารี เลอแปง นักการเมืองขวาจัดในฝรั่งเศส ใช้ปืนยิงเข้าไปในมัสยิด ทำให้ชาวแคนาดามุสลิมตายไป 6 คน
15 มีนาคม 2562 นายเบรนตัน ทาร์แรนต์ ชาวเมืองกราฟตัน รัฐนิวเซาท์เวลส์ ของออสเตรเลีย กราดยิงเข้าไปในมัสยิด 2 แห่งที่เมืองไครสต์เชิร์ชของนิวซีแลนด์ ทำให้มีคนตาย 49 คน ก่อนหน้าจะมีการยิง เมื่อ 7 มีนาคม 2562 นายทาร์แรนต์เผยแพร่คำประกาศความยาว 73 หน้า แสดงความสนับสนุนนายอันเดอร์ส เบรวิค ชาวนอร์เวย์ขวาจัดที่ฆ่าคนตายไป 69 ศพ ในค่ายพักแรมแห่งหนึ่งในนอร์เวย์เมื่อ พ.ศ.2554
นายทาร์แรนต์ประกาศว่า ตนสนับสนุนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ ผู้ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งอัตลักษณ์ของชาวผิวขาว และผู้เป็นศูนย์รวมของชาวผิวขาว
ในประเทศไทยก็มีพวกที่สร้างกระแสการเกลียดกลัวอิสลามตามสื่อและตามโซเชียลมีเดียต่างๆ ถ้าไม่ป้องกันไว้ก่อน ก็อาจจะเกิดปัญหาได้ พรุ่งนี้ขออนุญาตมาว่ากันต่อครับ.
นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัย
songlok1997@gmail.com