เพื่อนไลน์แอดไอดี @ntp5 ถามถึงการแก้ไขปัญหาอากาศเป็นพิษของจีน ขอเรียนนะครับว่า แต่เดิมรัฐบาลจีนไม่ได้สนใจสุขภาพของพลเมือง ช่วงที่ผมกับน้องสาวเรียนหนังสือ ปักกิ่งเป็นมหานครที่เต็มไปด้วยฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน พวกที่เอาเรื่องนี้ไปบอกชาวโลกรู้เป็นเจ้าแรกเพื่อประจานรัฐบาลจีนก็คือ สถานทูตสหรัฐฯ ในกรุงปักกิ่ง

อากาศกรุงปักกิ่งในเดือนธันวาคม 2554 เคยแย่ถึงขนาดสนามบินต้องยกเลิกเที่ยวบินมากกว่าเจ็ดร้อยเที่ยว แต่รัฐบาลจีนสมัยนั้นก็ยังเฉไฉและปิดบังข้อมูล อากาศของจีนแย่จากการผลิตไฟฟ้าที่ร้อยละ 65 มาจากถ่านหิน พลังงานที่มาจากถ่านหินมีมากถึงร้อยละ 62 ของพลังงานที่ใช้ทั้งหมดในจีน และตัวเลขของสำนักงานสิ่งแวดล้อมในกรุงปักกิ่งบอกว่าร้อยละ 20 ของมลภาวะ PM2.5 มาจากอุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์

ร้อยละ 40 ของแม่น้ำในจีนมีมลภาวะเจือปน ส่วนสารพิษมีเจือปนในแม่น้ำมากถึงร้อยละ 20 คนจีนมากกว่า 280 ล้านไม่มีน้ำปลอดภัยเพื่อการบริโภค แม่น้ำหลายสายในจีนยังมีอุจจาระและขยะลอยฟ่อง แถมยังแล้งแห้งเหือดหายไปทุกวัน พ.ศ.2533 จีนมีแม่น้ำทั้งหมดห้าหมื่นกว่าสาย แต่พอถึง พ.ศ.2556 จีนเหลือแม่น้ำอยู่เพียง 23,000 สาย เมืองใหญ่แต่ละแห่งดูดน้ำไปใช้จนน้ำแห้ง สถาบันแหล่งน้ำรายงานว่า 10 มณฑลของจีนขาดน้ำอย่างหนัก พ.ศ.2555 จีนมีน้ำไม่พอใช้มากกว่า 400 เมือง ที่ขาดน้ำอย่างรุนแรงที่สุดมี 110 เมือง รัฐบาลจีนทำวิจัยพบว่า พ.ศ.2573 (อีก 11 ปีข้างหน้า) จีนจะขาดแคลนน้ำมากถึง 2.1 แสนล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี การหักร้างถางพงของจีนเพื่อทำเกษตรแปลงใหญ่ทำให้พื้นที่หนึ่งในสี่กลายเป็นทะเลทราย ต้นน้ำถูกทำลาย
พ.ศ.2558 มีการขุดพบขยะจำนวน 45,000 ลูกบาศก์เมตรถูกฝังอยู่ใต้ดินลึก 5 เมตร ในหมู่บ้านแห่งหนึ่งใกล้กรุงปักกิ่ง และพบว่ามีสารพิษจากขยะเข้าไปปะปนกับน้ำบาดาล

...

ปัญหาอันดับหนึ่งของจีนคือคอร์รัปชัน อันดับสองคือมลภาวะในอากาศ คนจีนป่วยด้วยโรคของระบบทางเดินหายใจจำนวนเยอะมาก โดยเฉพาะโรคครู้ป หรือโรคคอตีบเทียมที่เป็นกลุ่มโรคที่มีการอักเสบของทางเดินหายใจส่วนต้น (จมูกและลำคอ) ส่วนกลาง (กล่องเสียง ท่อลม และหลอดลม) คนจีนจำนวนไม่น้อยหายใจเสียงดัง ‘ครู้ป’ ทำให้ลมเข้าออกจมูกด้วยความยากลำบาก

พ.ศ.2559 รัฐบาลจีนเตือนให้ผู้คนใน 21 เมืองรับมือกลุ่มหมอกควัน และสั่งให้โรงเรียนหยุดสอน 5 วัน รถยนต์ป้ายทะเบียนเลขคี่ห้ามวิ่งเข้าในเมือง โรงงานสี่พันกว่าแห่งต้องลดการผลิต โรงเรียนลูกคนรวยต้องสร้างยอดโดมปิดสนามเด็กเล่นและสนามหญ้าเพื่อป้องกันหมอกควัน รัฐบาลจีนแก้ไขปัญหามาเรื่อยๆ จนถึงเดือนมีนาคม พ.ศ.2560 รัฐบาลจีนก็ประกาศสงครามกับมลภาวะ

จากนั้นรัฐบาลจีนก็ยอมให้เอ็นจีโอขุดคุ้ยโรงงานที่ละเมิดกฎหมายการรักษาสิ่งแวดล้อม พ.ศ.2560 เอ็นจีโอเพียงกลุ่มเดียว (กลุ่มของนายหม่า จูน) รายงานว่ามีการละเมิดกฎหมายการดูแลสิ่งแวดล้อมถึง 8 แสนครั้ง จาก 6 แสนโรงงาน

ก่อนที่รัฐบาลจีนจะเอาจริงเอาจัง เจ้าของโรงงานในจีนไม่กลัวการถูกจับ เพราะไปเสียค่าปรับแล้วก็กลับผลิตต่อ แต่กฎหมายใหม่กำหนดให้ปรับเป็นรายวัน และค่าปรับก็จะถูกสะสมจนโรงงานเจ๊ง แต่ละวันมีโรงงานโดนปรับมากกว่า 700 แห่ง แต่ละปีมีประชาชนร้องเรียนเรื่องโรงงานสร้างมลภาวะเกือบแสนครั้ง

รัฐบาลจีนเอาจริงเอาจังกับการบังคับใช้กฎหมายการดูแลสิ่งแวดล้อม กฎหมายใหม่ให้ประชาชนหรือกลุ่มองค์กรกลางที่ดูแลผลประโยชน์ของสาธารณรัฐฟ้องได้ ศาลจีนทั่วประเทศรับคำฟ้องเรื่องละเมิดกฎหมายสิ่งแวดล้อมกันบ่อยมาก ฟ้องโรงงานยังไม่พอ ยังมีการฟ้องเจ้าหน้าที่รัฐ จนเจ้าหน้าที่รัฐเริ่มแขยงแขงขน ไม่กล้ารับเงินเพื่อช่วยเหลือพวกเจ้าของโรงงาน

สิ่งหนึ่งซึ่งทำให้จีนแก้ไขปัญหามลภาวะได้ในระดับหนึ่งก็คือ การยอมรับความจริง การยอมให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการแก้ไข และการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังนั่นเองครับ.

นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัย
songlok1997@gmail.com