อาลีบาบา คลาวด์ บริษัทดำเนินธุรกิจคลาวด์คอมพิวติ้งของ อาลีบาบากรุ๊ป เผยแนวคิดโครงการเพื่อสังคม ณ งานโมบาย เวิลด์ คองเกรส (Mobile World Congress: MWC) เปิดโอกาสให้หน่วยงานต่าง ๆ เข้ามาเป็นพันธมิตรในโครงการ เพื่อแบ่งปันทรัพยากรของอาลีบาบา คลาวด์ มาใช้ในโครงการเพื่อสังคม แก้ปัญหาหลากหลายมิติ เช่น การศึกษา การพัฒนาเศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม โดยอาศัยเทคโนโลยีอันทันสมัย

อาลีบาบา คลาวด์ บริษัทให้บริการโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ สำหรับธุรกิจต่าง ๆ เพื่อเปลี่ยนผ่านไปสู่ยุคดิจิทัล เปิดโอกาสให้ผู้ที่ต้องการเข้ามาเป็นพันธมิตรในโครงการเพื่อสังคม สามารถเข้ามาใช้เทคโนโลยี ทรัพยากร รวมไปถึงโปรแกรมพัฒนาบุคลากรของบริษัทฯ อย่างเช่น อาลีบาบา คลาวด์ อะคาเดมี (Alibaba Cloud Academy) และ “Tianchi” แพลตฟอร์มแข่งขันด้านเอไอ

หนึ่งในโครงการนำร่องของ Tech for Change ได้เปิดตัวที่งานโมบาย เวิลด์ คองเกรส ร่วมกับ iamtheCODE ซึ่งเป็นหน่วยงานของแอฟริกาที่เน้นกระตุ้นให้ภาครัฐ ภาคเอกชนและมูลนิธิเพื่อการกุศล ส่งเสริมการศึกษาให้แก่ผู้หญิงทั่วโลกในด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ ศิลปะ คณิตศาสตร์ การริเริ่มธุรกิจ และการออกแบบ หรือ STEAMED (Science, Technology, Engineering, Arts, Mathematics, Entrepreneurship, and Design) โครงการดังกล่าว จะให้การสนับสนุนด้านการเขียนโปรแกรมให้กับผู้หญิงรุ่นใหม่ผ่านการอบรมออนไลน์และให้ใช้ทรัพยากรด้านคลาวด์คอมพิวติ้งได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย โดยตั้งเป้าหมายว่าจะสามารถสร้างให้ผู้หญิงเป็นนักโค้ดเดอร์ได้ถึงล้านคนภายในปี ค.ศ. 2030

“ด้วยโครงการ Tech for Change เราต้องการนำนวัตกรรมและแนวคิดสร้างสรรค์มารวมกันเพื่อหาทางแก้ปัญหาและความท้าทายด้านต่าง ๆ ที่มนุษยชาติกำลังเผชิญ เช่น ความไม่เท่าเทียมกันทางการศึกษา ระบบสุขภาพเพื่อผู้ด้อยโอกาส เกษตรกรรมอย่างยั่งยืน และการคุ้มครองสัตว์ป่า” ดร.วันลี มิน หัวหน้านักวิทยาศาสตร์ด้านปัญญาเครื่องจักรกล ของอาลีบาบา คลาวด์ กล่าว “การทำให้เทคโนโลยีเข้าถึงได้ง่ายขึ้นและในราคาที่เอื้อมถึง ทำให้เราสามารถสร้างแรงบันดาลใจด้านความคิดสร้างสรรค์และส่งให้คนรุ่นถัดไป กลายเป็นเกมเชนเจอร์ ที่จะสร้างให้โลกเราน่าอยู่ยิ่งขึ้น”

“เราเข้ามากระตุ้นให้เกิดการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเพื่อสร้างสรรค์สังคมที่ดีขึ้นเพราะเชื่อมั่นว่าโครงสร้างพื้นฐานด้านคลาวด์และอินเทลลิเจนท์เทคโนโลยีที่เข้าถึงได้นั้น มีศักยภาพที่จะทำให้องค์กรขนาดเล็กสามารถสร้างความแตกต่างอันยิ่งใหญ่เพื่อโลกที่ดีกว่าสำหรับมนุษยชาติ” ดร.มินกล่าวต่อ “เราจึงขอเรียกร้องให้ทุกคนมารวมพลังกันและเป็นส่วนหนึ่งใน Tech for Change”

โครงการดังกล่าว สะท้อนให้เห็นค่านิยมของอาลีบาบา คลาวด์ ที่มุ่งมั่นจะสร้างชุมชนเข้มแข็งผ่านเทคโนโลยี โดยทำงานร่วมกับธุรกิจขนาดกลางและเล็กในโครงการเพื่อสังคมต่าง ๆ อย่างต่อเนื่องมาหลายปี อาทิ การเปิดโอกาสให้ใช้คลาวด์และอินเทลลิเจนท์เทคโนโลยีให้พันธมิตรอย่าง ROYBI ซึ่งเป็นบริษัทหุ่นยนต์เพื่อใช้ในโครงการการศึกษาเพื่อเด็ก และ Curefun บริษัทปัญญาประดิษฐ์ของจีนในการสร้างคนไข้เสมือนจริงเพื่อใช้ในการอบรมแพทย์และพยาบาลในพื้นที่ห่างไกล นอกจากนี้ ในปีพ.ศ. 2560 อาลีบาบา คลาวด์ ยังได้สร้างแพลตฟอร์มเพื่อการกุศลชื่อ “กรีนโค้ด” (Green Code) เพื่อเชื่อมอาสาสมัครซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านไอทีให้กับองค์กรไม่แสวงหากำไรในจีนเพื่อสร้างโครงการเพื่อการกุศลร่วมกัน ทั้งนี้ ในปี 2561 ได้มีวิศวกรกว่า 3,000 คนได้ลงทะเบียนเข้าร่วมเป็นอาสาสมัครในโครงการเพื่อการกุศลให้ 168 องค์กร

ภายใต้ความร่วมมือกับ iamtheCODE อาลีบาบา คลาวด์ จะนำเสนอคอร์สอบรมหลากหลาย รวมไปถึงคอร์สด้านคลาวด์คอมพิวติ้ง การวิเคราะห์ดาต้า machine learning และความปลอดภัย นอกเหนือจากคอร์สให้ความรู้ ยังมีการเพิ่มอาลี บาบา คลาวด์เข้าไปในหลักสูตร นักศึกษาที่สอบผ่านจะได้รับประกาศนียบัตรเพื่อนำไปช่วยยกระดับในด้านอาชีพ ปัจจุบัน มีนักเรียนหญิงกว่า 13,000 รายที่สามารถเข้าถึงหลักสูตรของ iamtheCODE ทั้งนี้ นักเรียนที่ลงทะเบียนเรียน ยังจะมีโอกาสในการใช้ทรัพยากรด้านคลาวด์คอมพิวติ้งฟรีในช่วงระหว่างการศึกษาอีกด้วย

“iamtheCODE รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ อาลีบาบา คลาวด์ เข้ามาร่วมเป็นพันธมิตรนำเสนอเทคโนโลยีเพื่อพลิกชีวิต ให้โอกาสแก่ผู้หญิงรุ่นใหม่ที่ด้อยโอกาสจากที่ต่าง ๆ ในโลกนี้ หลักสูตรการเรียนการสอนที่เราทำขึ้นนี้ จะยิ่งสร้างการเข้าถึงมากขึ้นเมื่อมีอาลีบาบา คลาวด์เข้ามาเป็นพันธมิตร การใช้เทคโนโลยีเพื่อเปลี่ยนชีวิตนับเป็นสิ่งที่เราให้ความสำคัญ ไม่ว่าจะเพื่อสร้างโอกาสในการสร้างธุรกิจ ประกอบอาชีพ และเสริมทักษะด้านดิจิทัลเพื่ออนาคต” Mariéme Jamme ผู้ก่อตั้ง iamtheCODE กล่าว “เรารู้สึกเป็นเกียรติและตื่นเต้นแทนผู้หญิงรุ่นใหม่ที่จะมีโอกาสเข้าถึงเทคโนโลยีอันล้ำหน้าของอาลี บาบา คลาวด์ การก้าวเคียงคู่ไปกับ อาลีบาบา คลาวด์ เพื่อสร้างความแตกต่างในชีวิตของผู้หญิงรุ่นใหม่นับล้าน ๆ คนบนโลกนี้ นับเป็นช่วงเวลาประวัติศาสตร์จริง ๆ”