ภาพ : Velizar Simeonovski, Field Museum (ภาพเล็ก : Terry Gates, NC State University)

หนึ่งในซากดึกดำบรรพ์หรือฟอสซิล (fossil) ไดโนเสาร์ที่มีชื่อเสียงของพิพิธภัณฑ์ฟิลด์ในนครชิคาโก รัฐอิลลินอยส์ แห่งสหรัฐอเมริกา ก็ต้องเป็นโครงกระดูกของไทแรนโนซอรัส เร็กซ์ หรือเรียกสั้นๆว่า ที.เร็กซ์ (Tyrannosaurus rex-T.rex) ซึ่งได้รับการตั้งชื่อว่า “ซู” (Sue) ขนาดตัว 12.3 เมตร นักบรรพชีวินวิทยาสันนิษฐานว่ามันตกลงไปในแม่น้ำเซาธ์ ดาโกตาและสิ้นชีพเมื่อ 67 ล้านปีก่อน

ทว่าหลังจากมีการตรวจสอบหินหนักขนาด 2,000 กิโลกรัมที่เหลืออยู่หลังจากเลาะกระดูกของเจ้าซูออกไปแล้ว ก็พบว่ามีซากฟอสซิลฟันฉลามฝังอยู่ที่หินก้อนนั้น แม้จะมีความประหลาดใจที่พบฟันฉลามอยู่ใกล้กับซากที.เร็กซ์ แต่นักบรรพชีวินวิทยาจากมหาวิทยาลัยนอร์ทแคโรไลนา ในสหรัฐฯ ก็สามารถระบุได้ว่าเป็นฟันของปลาฉลามกบโบราณและการที่มันติดฝังอยู่ใกล้ซากของที.เร็กซ์ซู ก็อาจเป็นเพราะการตกลงไปตายในแม่น้ำเซาธ์ดาโกตา ที่ช่วงยุคนั้นมีฉลามอาศัยอยู่อย่างชุกชุม

นักบรรพชีวินวิทยาเรียกฉลามชนิดนี้ว่า กาลากาดอน (Galagadon) มีความเชื่อมโยงกับกลุ่มปลาฉลามกบที่พบในทะเลอินโด-แปซิฟิก ซึ่งฟันเหล่านี้มีขนาดเท่าเม็ดทราย ถ้าไม่ส่องด้วยกล้องจุลทรรศน์ก็จะไม่มีทางเห็น โชคดีที่นักบรรพชีวินวิทยาพบซากฟันนี้ก่อนที่จะปล่อยผ่านเลยไป เพราะสิ่งมีชีวิตทุกสายพันธุ์ในระบบนิเวศ ต่างมีบทบาทต่อเครือข่ายทั้งหมดที่จะทำให้เข้าใจถึงการเปลี่ยนแปลงในระบบนิเวศช่วงการสูญพันธุ์ครั้งใหญ่ในยุคครีเตเชียส.