การวอกแวกหรือเสียสมาธิขณะทำบางสิ่งบางอย่างที่ต้องใจจดใจจ่อถือว่าสำคัญมาก การขับขี่ยวดยานพาหนะก็เหมือนกัน เผลอไม่ได้เลย
ด้วยเหตุนี้ กระทรวงคมนาคมของเนเธอร์แลนด์เลยเร่งผลักดันร่างกฎหมายห้ามใช้โทรศัพท์มือถือขณะปั่นจักรยาน เพิ่มความเข้มงวดจากที่ ก.ม.ห้ามเฉพาะตอนขับรถ
แต่ยกเว้นให้ ถ้าปรับให้อยู่ในโหมดแฮนด์-ฟรี ใช้อุปกรณ์ช่วยสนทนา เช่น เสียบหูฟังและอื่นๆ
ก.ม.ห้ามใช้มือถือขณะปั่นจักรยานจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เดือน ก.ค.2562 เป็นต้นไป
ส่วนค่าปรับ ผู้ฝ่าฝืนอาจตั้งค่าปรับเทียบเท่าโทษปรับของกฎหมายห้ามใช้มือถือขณะขับรถเก๋งหรือรถบรรทุก ซึ่งมีโทษปรับสูงสุด 230 ยูโร (ประมาณ 8,320 บาท)
กรณีของผู้ปั่นจักรยานยังต้องรอผลสอบถามความคิดเห็นสาธารณะก่อน
เนเธอร์แลนด์ได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งจักรยาน ผู้คนนิยมใช้จักรยานปั่นสัญจรไปมา ได้ทั้งกำลังและลดภาวะโลกร้อน จนมีจักรยานเกือบ 23 ล้านคัน มากกว่าประชากรทั้งประเทศที่มีอยู่ประมาณ 17 ล้านคน
การผลักดันร่าง ก.ม.ห้ามใช้มือถือขณะปั่นจักรยาน มีขึ้นขณะเกิดอุบัติเหตุเกี่ยวข้องกับมือถือสมาร์ทโฟนบ่อยครั้ง และอุบัติเหตุทางจักรยานขณะใช้มือถือที่เกิดขึ้นดังกล่าวก็เกี่ยวข้องกับเยาวชนหลายกรณี
ขณะที่ 25% ของยอดผู้เสียชีวิต 613 คนจากอุบัติเหตุบนถนนในเนเธอร์แลนด์เมื่อปีที่แล้ว เสียชีวิตเพราะสาเหตุการเสียสมาธิหรือไขว้เขวขณะขับขี่ทั้งรถยนต์และจักรยาน
“ไม่ว่าจะปั่นจักรยานหรือขับขี่ยานพาหนะทุกประเภทถือว่าอันตรายพอกัน เมื่ออยู่บนถนนต้องใส่ใจเป็นพิเศษ ไม่ส่งข้อความสั้นหรือทำอะไรอื่นกับโทรศัพท์” คอรา ฟาน นูวเวนฮุยเซน รมว.คมนาคมเผย
ก่อนหน้านี้มีความพยายามลดอุบัติเหตุเกี่ยวข้องกับมือถือในเนเธอร์แลนด์เหมือนกัน โดยทางการท้องถิ่นเมืองบอเดอกราเวน ทดลองติดสัญญาณไฟจราจรสูงแค่ระดับเท้า ป้องกันคนเดินเท้าเดินเตร็ดเตร่เข้าเขตถนนหรือเดินเข้าไปเลนปั่นจักรยานเพราะมัวแต่ง่วนอยู่กับหน้าจอมือถือ
...
ข่าวไม่บอกว่าได้ผลเป็นอย่างไร แต่บ่งบอกว่าเครื่องมือสื่อสารถ้าใช้ถูกที่ถูกทางถูกเวลาก็มีแต่ประโยชน์.
เกรียงศักดิ์ จุนโนนยางค์