(ภาพ Adam Bemma/Al Jazeera)

เจ้าหน้าที่มาเลเซียจับนายฮัสซัน อัล-คอนทาร์ ชาวซีเรีย วัย 36 ปี ซึ่งติดค้างอยู่ภายในสนามบินนานาชาติกัวลาลัมเปอร์เกือบ 7 เดือน เรื่องราวของเขาถูกยกเปรียบเทียบกับภาพยนตร์ฮอลลีวูดเรื่องเดอะ เทอร์มินอล

คอนทาร์ซึ่งถูกทางการซีเรียต้องการตัวฐานหลบหนีเกณฑ์ทหาร ติดค้างอยู่ในอาคารผู้โดยสารฝั่งสายการบินต้นทุนต่ำของสนามบินนานาชาติกัวลาลัมเปอร์ (KLIA2) ตั้งแต่วันที่ 7 มี.ค. หลังถูกห้ามขึ้นเที่ยวบินมุ่งหน้าสู่เอกวาดอร์ ก่อนหน้านี้เขาบินไปกัมพูชาแต่ถูกปฏิเสธเข้าประเทศก่อนถูกส่งกลับมาที่ KLIA2 เมื่อวันที่ 7 มี.ค.เพราะเหตุผลด้านวีซ่า

ตลอดเวลาเกือบ 7 เดือนที่ติดค้างในอาคารผู้โดยสาร เขาเอาชีวิตรอดด้วยอาหารสายการบินที่มีคนบริจาคให้และอาบน้ำซักเสื้อผ้าในห้องน้ำสนามบิน เขายังโพสต์คลิปวิดีโอลงยูทูบเป็นระยะๆ ร้องขอความช่วยเหลือและโอดครวญว่าถูกกลุ่มเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิมนุษยชนเมินช่วยเหลือและไม่มีใครต้อนรับ

เจ้าหน้าที่มาเลเซียระบุว่าคอนทาร์ถูกจับและนำตัวออกจากสนามบินเมื่อวันที่ 1 ต.ค. ฐานอยู่ในเขตหวงห้ามโดยไม่มีตั๋วเครื่องบิน (บอร์ดิ้งพาส) และเป็นเพราะคลิปที่เขาโพสต์ลงสื่อสังคมออนไลน์เริ่มได้รับความสนใจจากสื่อมากขึ้น ทำให้มาเลเซียเสื่อมเสียชื่อเสียง เจ้าหน้าที่จะติดต่อฝ่ายซีเรียเพื่อดำเนินการส่งตัวกลับคืนภูมิลำเนาต่อไป

คอนทาร์ทำงานกับบริษัทประกันภัยในสหรัฐ-อาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ขณะสงครามกลางเมืองปะทุขึ้นในซีเรียเมื่อปี 2554 แต่ไม่สามารถต่ออายุหนังสือเดินทาง (พาสปอร์ต) ได้ เพราะไม่ได้ผ่านเกณฑ์ทหาร อีกทั้งเขาไม่ต้องการกลับซีเรีย กลัวถูกจับหรือถูกบังคับเป็นทหาร จึงลักลอบอยู่ในยูเออีและถูกจับเมื่อปี 2559

และเมื่อได้พาสปอร์ตใหม่ซึ่งข่าวไม่ระบุรายละเอียด เขาถูกส่งตัวไปมาเลเซียเมื่อปี 2560 เพราะมาเลเซียเป็น 1 ในไม่กี่ประเทศที่อนุญาตชาวซีเรียเข้าประเทศโดยไม่มีวีซ่าได้ แต่หลังวีซ่านักท่องเที่ยวอายุ 3 เดือนหมดอายุ เขาจึงต้องติดค้างที่ KLIA2 จนถูกจับเพราะมาเลเซียไม่รับเข้าประเทศเช่นเดียวกับกัมพูชาและขึ้นเครื่องไปเอกวาดอร์ไม่ได้ตามข่าวข้างต้น

...

ชะตากรรมของเขาทำให้หลายคนนึกถึงเรื่องราวหนังฮอลลีวูดเรื่องเดอะ เทอร์มินอล ฉายเมื่อปี 2547 โดยพระเอกดัง ทอม แฮงค์ส ติดค้างในสนามบินนิวยอร์ก นาน 1 ปี กลับบ้านไม่ได้เพราะเกิดสงครามกลางเมืองที่บ้านเกิด.