อีกเรื่องหนึ่งซึ่งมีผู้อ่านท่านถามมากันหลายคน ก็คือกรณีการหายตัวไปของฟ่านปิงปิง ดาราค่าตัวแพงที่สุดในสาธารณรัฐประชาชนจีน รายได้จากการแสดงที่ฟ่านปิงปิงได้รับในแต่ละปีมีเป็นจำนวนหลายพันล้านบาท

ผู้คนจำนวนไม่น้อยเชื่อว่าการหายตัวของฟ่านปิงปิงเป็นเรื่องของการจ่ายภาษีไม่ครบ ซึ่งก็สอดคล้องกับการออกมาแถลงข่าวของสำนักงานสรรพากรมณฑลเจียงซู ว่าการสอบสวนคดีของฟ่านปิงปิงกำลังดำเนินอยู่ ยังไม่จบ ขออย่าเพิ่งวิจารณ์คดีของเธอว่าไปในทางถูกหรือผิด

ถ้าผู้อ่านท่านรู้เรื่องของฟ่านปิงปิงอย่างลึกซึ้งแล้ว ก็จะทราบว่า การเมืองของจีนนี่ไม่ธรรมดาเลยครับ หมากรุกจีนมีกือ (เรือ) เบ๊ (ม้า) เฉีย (ช้าง) สือ (องครักษ์) ตี่ (ขุน) ฯลฯ

ตี่เดินได้เฉพาะในเขตพระราชวัง เดินตาตรง 4 ทิศ สือเดินได้ในตาเฉียง 4 ทิศ เฉพาะในเขตพระราชวัง เฉียเดินได้ในแนวทแยงมุม 4 ทิศ แต่ข้ามไป 1 จุด ข้ามแม่น้ำไม่ได้ จุกที่หมายถึงเบี้ย เดินขึ้นหน้าได้ทิศทางเดียว แต่ถ้าข้ามแม่น้ำไปแล้วจะสามารถเดินข้างเพิ่มได้

หมากรุกจีนมี การขัดขาเฉีย การขัดขาเบ๊ มีรุกตี่จน ตี่ไม่มีตาเดิน ตี่ประจันหน้า ยอมแพ้ ฯลฯ

...

การเมืองของจีนที่ภายนอกมองดูราบเรียบเงียบสงบ แต่ภายในต่อสู้กันอย่างรุนแรงแบบเดียวกับหมากรุกจีนระหว่างกลุ่มของเจียง เจ๋อหมิน (ผู้นำรุ่นที่ 3) หูจิ่นเทา (ผู้นำรุ่นที่ 4) และสี จิ้นผิง (ผู้นำรุ่นที่ 5) แม้เจียงจะครองอำนาจครบ 10 ปี และลงจากเวทีไปแล้ว แต่บารมีของแกที่ทำไว้ในสมัยที่เป็นประธานาธิบดี ซึ่งในตอนนั้นเศรษฐกิจจีนพุ่งกระฉูดส่งตูดจัมโบ้ที่สุด ทำให้เครือข่ายของเจียงสั่งสมความมั่งคั่งไว้ได้มากที่สุด ตอนที่เจียงลงจากตำแหน่งผู้นำเมื่อ พ.ศ.2546 แต่ก็ยังได้เป็นประธานคณะกรรมาธิการกลางทหาร ซึ่งเป็นตำแหน่งสูงสุดของกองทัพจีนจนถึง พ.ศ.2548

สมัยก่อนตอนที่ยังต้องมีการปฏิบัติการจิตวิทยาเพื่อให้ประชาชนคนจีนรักและศรัทธาทหาร กองทัพประชาชนจีนผลิตภาพยนตร์และสื่อเพื่อการโฆษณาชวนเชื่อ เพื่อให้คนรักชาติเป็นจำนวนมาก กองทัพจีนจึงเกี่ยวดองหนองยุ่งกับวงการภาพยนตร์อย่างมาก

ต่อมา บริษัทภาพยนตร์ของรัฐวิสาหกิจและเอกชนจีนมักประสบความสำเร็จอย่างสูงในการสร้างภาพยนตร์ประวัติศาสตร์สงคราม หรือภาพยนตร์เกี่ยวกับการสู้รบระหว่างกองทัพประชาชนจีนของเหมาเจ๋อตงกับกองทัพของสาธารณรัฐจีนของเจียงไคเช็ก ภาพยนตร์การต่อสู่กับกองทัพญี่ปุ่น ฯลฯ การสร้างภาพยนตร์เหล่านี้จะต้องใช้คนและอาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ จำนวนมาก ยากที่บริษัทภาพยนตร์ธรรมดาจะทำได้ นี่เป็นที่มาของความเชื่อมโยงระหว่างกองทัพกับวงการภาพยนตร์

ดาราคนไหนจะดังได้ก็จะต้องมีส่วนเชื่อมกับวงการทหาร อย่างฟ่านปิงปิงนี่ นอกจากตัวเธอจะมีความสามารถด้านการแสดงอย่างสูงแล้ว สิ่งที่ทำให้เธอก้าวไปถึงค่าตัวระดับพันล้านก็คือว่าที่สามีที่มีนามว่า หลี่เฉิน ซึ่งมีคุณแม่เป็นทหารผู้มีบารมีสูง ตอนที่แม่ของหลี่เฉินเสียชีวิต ผู้คนในกองทัพประชาชนจีนแห่กันมาร่วมไว้อาลัยในงานศพ

สมัยที่เจียงเจ๋อหมินเป็นประธานาธิบดี มือขวาของเจียงคือ เจิงชิ่งหง คนที่เป็นประธานาธิบดีต่อจากเจียงคือ หูจิ่นเทา รองประธานาธิบดีของนายหูก็คือ เจิงชิ่งหง และท่านผู้นี้นี่ล่ะครับมีน้องชายชื่อ เจิ้งชิ่งหวาย ที่เป็นเบอร์หนึ่งของวงการบันเทิงของฮ่องกงและสาธารณรัฐประชาชนจีน เจิ้งชิ่งหวายสร้างหนังเกี่ยวกับกองทัพและประสบความสำเร็จมาก ข่าววงในเจิ้งชิ่งหวายเกี่ยวดองหนองยุ่งอย่างแรงกับหลี่เฉิน ว่าที่สามีของฟ่านปิงปิง

บุคคลในเครือข่ายของเจียงเจ๋อหมินถูกทำลายไปทีละคนสองคน แม้แต่นายป๋อซีไหล ซึ่งเคยเป็นถึงเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ประจำนครฉงชิ่ง อดีตกรมการเมือง อดีตคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์ ที่เคยมีการทำนายทายทักกันว่า จะมาเป็นประธานาธิบดีต่อจากหูจิ่นเทา แต่ตอนหลังก็ถูกจับติดคุกหมดอนาคต

ฟ่านปิงปิงเป็นตัวเล่นตัวหนึ่งหมากรุกจีน บางคนก็ว่าเธอเป็นกือ (เรือ) เป็นเบ๊ (ม้า) เป็นเฉีย (ช้าง) บางคนบอกว่าเธอเป็นสือ (องครักษ์) จึงต้องโดนกำจัด.

นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัย
songlok1997@gmail.com