สื่อนอก เผย สารคดีใหม่ของเนชั่นแนล จีโอกราฟฟิก จำลองภาพ จุดจบ MH370 หมุนดิ่ง พุ่งตกลงกระแทกผืนน้ำมหาสมุทรอินเดีย หลังน้ำมันหมด เครื่องยนต์ขวา-ซ้าย เกิดไฟไหม้ และระบบออโตไพล็อตดับ

เมื่อ 25 ก.ย. 61 เว็บไซต์เดอะ ซัน ,เมโทร และเดลี่เมล รายงาน เนชั่นแนล จีโอกราฟฟิก (National Geograhic) เผยแพร่สารคดีใหม่ในชื่อ ‘ Drain The Oceans’ ใช้เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ จำลองภาพ จุดจบสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ส เที่ยวบิน MH370 ที่หายสาบสูญอย่างปริศนา พร้อมกับผู้โดยสารและลูกเรือ 239 คน หลังทะยานออกจากสนามบินในกรุงกัวลาลัมเปอร์ มุ่งหน้าสู่กรุงปักกิ่ง เมื่อ 8 มีนาคม 2557 

จากการสำรวจค้นหาชะตากรรมของ เครื่องบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ส เที่ยวบิน MH370 ที่มีเบาะแสไม่มากนัก คาดว่า เครื่องบินได้หมุนดิ่งกระแทกผืนน้ำมหาสมุทรอินเดียอย่างรุนแรง หลังจากน้ำมันเชื้อเพลิงหมด โดยตามรายงานในสารคดี Drain The Oceans ระบุว่า เครื่องยนต์ด้านขวาของ MH 370 ได้เกิดไฟลุกไหม้ขึ้นก่อน ทำให้ระบบขับเครื่องบินอัตโนมัติ หรือ ออโตไพล็อต (Autopilot) พยายามจะปรับสมดุลของเครื่องบินด้วยการเลี้ยวซ้ายอย่างแรง จากนั้น เครื่องยนต์ที่สองก็เกิดไฟไหม้ในอีกไม่กี่นาทีต่อมา

หลังจาก MH370 น้ำมันหมด ทำให้ระบบออโตไพล็อตดับลง จากนั้นจึงทำให้เครื่องบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ส ลำนี้ ดิ่งลงมาและหมุนเป็นระยะทางยาว ก่อนจะตกกระแทกผืนน้ำในมหาสมุทรอินเดีย โดยซาก MH370 หลายชิ้น ที่มีคนพบเห็น และตรวจสอบแล้วว่าเป็นของเที่ยวบินMH370 ซึ่งถูกคลื่นซัดไปเกยหาดเกาะเรอูนิยง และชายฝั่งตะวันตกของมหาสมุทรอินเดีย ถือเป็นการเปิดเผยเงื่อนงำของเครื่องบินลำนี้พุ่งตกกระแทกผืนน้ำ

...

เว็บไซต์ เดอะ ซัน รายงานว่า บริษัท Electric Pictures ซึ่งทำงานอย่างใกล้ชิดกับสำนักงานความปลอดภัยด้านการขนส่งออสเตรเลีย และทีมเจ้าหน้าที่สืบสวนรัฐบาลออสเตรเลีย ระบุว่าเครื่องบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ส เที่ยวบิน MH370 ยังมีการรับส่งสัญญาณกับดาวเทียมที่รู้จักกันในชื่อ ดาวเทียมอินมาร์แซต (Inmar sattlelite) ที่อยู่เหนือมหาสมุทรอินเดีย ก่อน MH370 จะหายไปจากจอเรดาร์

การรับส่งสัญญาณของ MH370 กับดาวเทียมอินมาร์แซต ดำเนินเป็นเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ซึ่งทำให้บรรดาผู้เชี่ยวชาญสามารถนำมาใช้คำนวนหาทิศทางการบินของ MH370 จนพบว่า หลังจาก MH370 ทะยานออกจากกัวลาลัมเปอร์ บินไปทางตะวันตกเฉียงเหนือแล้ว ได้เปลี่ยนทิศทางบินมาทางใต้ และบินนานกว่า 6 ชั่วโมง โดยการวิเคราะห์เพิ่มเติมของดาวเทียมอินมาร์แซต แสดงให้เห็นช่วงเวลาสุดท้ายของเครื่องบินที่ลดระดับเพดานบินอย่างรวดเร็ว เพราะน้ำมันหมด

ที่ เกาะเรอูนิยง ซึ่งอยู่ห่างจากบริเวณที่มีการค้นหาเกือบ 5,000 กิโลเมตร ได้มีการพบชิ้นส่วนโลหะชิ้นหนึ่ง เป็นส่วนที่เรียกว่าแฟลปพีรอน จากปีกของเครื่องบิน ซึ่งบริษัทโบอิ้ง ผู้ผลิตเครื่องบินลำนี้ยืนยันว่าหมายเลขที่ปรากฏบนแฟลปพีรอน ตรงกับเครื่องบินโบอิ้ง777 เที่ยวบิน MH370

ชมคลิป:ที่นี่

ภาพจาก National Geographic