หลังกฎหมายห้ามเอกชนที่ดำเนินธุรกิจด้านการบริการอาหารและเครื่องดื่มในเมืองซีแอตเติล รัฐวอชิงตัน ในสหรัฐฯ มีหลอดหรือภาชนะที่ทำจากพลาสติกทุกชนิดเริ่มมีผลบังคับใช้เมื่อ 1 ก.ค. ซึ่งน่าจะเป็นเมืองใหญ่แห่งแรกในประเทศที่ออกคำสั่งมาตรการดังกล่าว และหากผู้ประกอบการไม่ปฏิบัติตามมีโทษปรับเป็นเงินสูงสุด 250 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 8,200 บาท ทำให้ร้านค้าต่างๆ ทั่วเมือง 5,000 แห่ง จะได้รับอนุญาตให้ใช้ได้แต่ภาชนะที่นำกลับมาใช้ใหม่หรือย่อยสลายได้ และยังมีเวลาที่จะเริ่มปฏิบัติตามกฎหมาย โดยยังอนุญาตให้ใช้ที่มีอยู่ตลอดช่วงสุดสัปดาห์นี้ ขณะที่หลายเมืองในสหรัฐฯ รวมนครนิวยอร์ก และเมืองซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย อยู่ระหว่างดำเนินการ
ทั้งนี้ ส.ส.เขตรัฐแคลิฟอร์เนียกำลังพิจารณาข้อกฎหมายดังกล่าว โดยจะห้ามร้านค้าแจกจ่ายหลอดพลาสติกกับลูกค้า แต่ยังอนุญาตหากลูกค้าร้องขอ ซึ่งผ่านมติสภาแห่งรัฐแล้วคงเหลือมติจาก ส.ว. ยกเว้นรัฐฮาวาย ที่กลุ่มนักธุรกิจ ทั้งสมาคมร้านอาหารรัฐฮาวายและสมาคมอุตสาหกรรมอาหารรัฐฮาวายประกาศคัดค้านคำสั่งดังกล่าว ทำให้การยื่นมติในสภาต้องตกไป ขณะที่นายกรัฐมนตรีหญิง เทเรซา เมย์ แห่งอังกฤษ ที่ประกาศเมื่อเดือน เม.ย.เตรียมแผนห้ามใช้หลอดพลาสติก ที่คนเครื่องดื่ม คอตตอนบัด โดยมองว่าเป็นหนึ่งในภารกิจท้าทายด้านสิ่งแวดล้อมครั้งใหญ่ที่สุดในโลก เพราะไม่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ เป็นมลพิษทางน้ำและเป็นอันตรายต่อสัตว์ทะเล.