ดูเหมือนการเลือกตั้งกัมพูชามีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ โพลของชาติมหาอำนาจหลายประเทศที่แอบเข้าไปทำ ได้ผลออกมาอย่างเดียวกันว่า เขมรประชาชนคนชั้นล่างแขยงแขงขนพรรคประชาชนกัมพูชาของสมเด็จฮุนเซนเป็นอย่างมาก 29 กรกฎาคม 2561 แต่ละคนเตรียมไปหย่อนบัตรเลือกตั้งให้กับพรรคการเมืองที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามกับพรรคประชาชนฯ
ย้อนหลังกลับไปในการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อ 27 กรกฎาคม 2551 พรรคประชาชนกัมพูชาได้คะแนน 3.4 ล้าน ได้ ส.ส. 90 คน พรรค สม รังสี ได้คะแนน 1.3 ล้าน ได้ ส.ส. 26 คน พรรคสิทธิมนุษยชน ได้คะแนน 3.9 แสน ได้ ส.ส. 3 คน พรรคนโรดม รณฤทธิ์ ได้คะแนน 3.3 แสน ได้ ส.ส. 2 คน พรรคฟุนซินเปก ได้คะแนน 3 แสน ได้ ส.ส. 2 คน
การเลือกตั้ง พ.ศ.2551 พรรคของฮุนเซนได้คะแนนเสียงท่วมท้น และตามรัฐธรรมนูญใหม่ทำให้พรรคประชาชนได้เป็นรัฐบาลเพียงพรรคเดียว เพราะมี ส.ส. เกินร้อยละ 50 ไม่ต้องติดขัดในเงื่อนไขเดิมว่าต้องได้ ส.ส.ไม่ต่ำกว่า 2 ใน 3 ของทั้งหมด ผมยังจำได้ว่า สมเด็จฮุนเซนบอกว่า แม้มี ส.ส. เพียง 2 คน แต่ฟุนซินเปกก็มาร่วมรัฐบาลได้นะ ถ้าคุณเปลี่ยนหัวพรรคสักหน่อย
เดิม ฟุนซินเปกมีหัวหน้าพรรคชื่อ สมเด็จกรมพระนโรดม รณฤทธิ์ แต่เลือกตั้งปี 2551 พระองค์ก็ทรงแยกออกมาตั้งพรรคเองชื่อพรรคนโรดม รณฤทธิ์ ส่วนพรรคฟุนซินเปก คนที่เป็นหัวหน้าคือนายเขียว พุธ รัสมี ซึ่งสมเด็จก็ยังรังเกียจเดียดฉันท์ เพราะนายเขียวมีเมียเป็นเจ้าที่มีพระนามว่าเจ้าหญิงอรุณ รัสมี เมื่อสมเด็จฮุนเซนอ่อยเหยื่อ พรรคฟุนซินเปกก็ต้องรีบเอาพวกเจ้าออก
สมาชิกพรรคฟุนซินเปก จึงขอเปลี่ยนหัวหน้าพรรคมาเป็นพลเอกเนก บุญชัย และก็เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่พรรคฟุนซินเปกไม่มีเจ้าหรือบุคคลที่เกี่ยวดองหนองยุ่งกับเจ้ามาเป็นหัวหน้าพรรค
ส่วนนายสม รังสี ก็รวมกลุ่มกับพรรคการเมืองอื่นเพื่อสร้างพลังทางการเมือง แกไปขอเออออห่อหมกกับพรรคสิทธิมนุษยชนแล้วก็ตั้งเป็นขบวนการประชาธิปไตยแห่งการเปลี่ยนแปลง
...
นายสมเกิดมาเป็นเสี้ยนตำเท้าของฮุนเซน สมเด็จฮุนเซนจึงต้องเตะนายสมออกนอกการเลือกตั้งให้ได้ ครั้งหนึ่งนายสมปราศรัยว่าฮุนเซนใช้อำนาจไม่ถูกต้อง แถมยังมีพฤติกรรมคอร์รัปชันทางการเมือง ฮุนเซนก็เอาไปฟ้องศาล นายสมต้องเสียค่าสินไหมทดแทนให้ฮุนเซน
8 ปีที่แล้ว คนเขมรที่อยู่ในหมู่บ้านตามแนวชายแดนกัมพูชา-เวียดนาม ช่วยกันย้ายป้ายปักปันเขตแดน เพราะมีความเชื่อว่าเวียดนามเล่นไม่ซื่อด้วยการย้ายป้ายปักปันเขตแดนเข้ามาในเขตแดนกัมพูชา นายสมที่ตอนนั้นยังเป็น ส.ส.อยู่ เข้าไปช่วยชาวบ้านย้ายกับเขาด้วย
รัฐบาลของฮุนเซนก็จึงลากนายสมขึ้นศาลข้อหาให้ข้อมูลข่าวสารผิดพลาดเกี่ยวกับแนวชายแดน ศาลก็ตัดสินให้นายสมมีความผิดตามคำฟ้อง ซึ่งก่อให้เกิดผลกระทบต่อเกียรติยศของรัฐบาล ศาลสั่งจำคุกนายสม 11 ปี นายสมจึงต้องหนีไปอยู่ต่างประเทศ แล้วก็มีการจัดการให้เปลี่ยนชื่อพรรค จากพรรคสม รังสี เป็นพรรคสร้างเสริมความเข้มแข็งแห่งชาติ คนกัมพูชาส่วนใหญ่เรียกชื่อพรรคนี้ว่า พรรคปกปักรักษาชาติ
พรรคสร้างเสริมความเข้มแข็งแห่งชาติไปเจรจาขอรวมกันกับพรรคสิทธิมนุษยชน ความประสงค์ก็คือ ต้องการให้มีพลังทางการเมืองมากขึ้น รวมกันแล้วก็เปลี่ยนชื่อเป็น พรรคกู้ชาติกัมพูชาอย่างเป็นทางการ เมื่อ 17 กรกฎาคม 2555 เพื่อเตรียมตัวเลือกตั้งใน พ.ศ.2556
การเลือกตั้งทั่วไปเมื่อ 28 กรกฎาคม 2556 มีพรรคที่ส่ง ส.ส. ทั้งหมด 8 พรรค คือ พรรคประชาชนกัมพูชา (ของสมเด็จฮุนเซน) พรรคฟุนซินเปก (ของเจ้านโรดม อรุณรัสมี พระธิดาในสมเด็จนโรดม สีหนุ) พรรคกู้ชาติกัมพูชา (ของนายสม รังสี) พรรคสันนิบาตประชาธิปไตย พรรคพัฒนาเศรษฐกิจเขมร พรรคสาธารณรัฐประชาธิปไตย พรรคต่อต้านความยากจนเขมร และพรรคแห่งชาติกัมพูชา
ผมพยายามปูทางการเมืองกัมพูชา เพื่อที่จะใช้อธิบายกรณีที่เจ้ารณฤทธิ์ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ เมื่อ 18 มิถุนายน 2561
พรุ่งนี้มาต่อครับ.
นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัย
pasalok1998@gmail.com