(ภาพเครื่องบิน : ภาพประกอบ)

ปริศนาการหายไปของเครื่องบินโดยสารสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ส เที่ยวบิน MH370 กัวลาลัมเปอร์-ปักกิ่ง พร้อมผู้โดยสารและลูกเรือ 239 ชีวิต ตั้งแต่ 8 มีนาคม 2557 กลายเป็นโศกนาฏกรรมการบินที่ลึกลับซับซ้อนซ่อนเงื่อนมากที่สุดเท่าที่เคยเกิดขึ้น

เพราะทั้งที่เวลาผ่านไปกว่า 4 ปี ท่ามกลางการค้นหาอย่างเอาเป็นเอาตายในมหาสมุทรอินเดีย แต่จนถึงวันนี้ เรายังไม่รู้เลยสักนิดว่า ทำไม MH370 จึงตก? และทำไมเครื่องบินลำใหญ่โตจึงได้หายไปอย่างลึกลับไร้ร่องรอยเช่นนี้??

ที่น่าหวาดหวั่นสำหรับพ่อแม่ญาติพี่น้องของผู้โดยสารและลูกเรือบนเที่ยวบิน MH370 มากขึ้นไปอีก ก็คือ มีการพูดกันออกมาแล้วว่า บางทีการสูญหายของ MH370 อาจจะกลายเป็นปริศนาไปตลอดกาล ท่ามกลางการเกิดขึ้นของ ‘ทฤษฎีสมคบคิด’ หลายทฤษฎี การตั้งข้อสันนิษฐานถึงความน่าจะเป็นว่า เกิดอะไรกับเครื่องบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ส ที่หายไปอย่างลึกลับนานนับ 4 ปีแล้ว

...

*เครื่องบินโดนยิงตกโดยไม่ตั้งใจระหว่างซ้อมรบ

ถือเป็นสมมติฐานแรกที่มีการเอ่ยอ้างถึง โดยเว็บไซต์ มิร์เรอร์ เผยว่ามีหนังสือเล่มหนึ่งชื่อ ‘Flight370:The Mystry’ (ปริศนาเที่ยวบิน MH370) ที่สร้างความตกตะลึงพรึงเพริด เพราะเนื้อหาอ้างว่า เครื่องบินโดยสารมาเลเซีย แอร์ไลน์สลำนี้อาจถูกยิงตกโดยอุบัติเหตุ หรือไม่ได้ตั้งใจระหว่างมีการการซ้อมรบระหว่างกองทัพสหรัฐฯกับไทยในบริเวณนั้นพอดี และมีการปกปิดข้อมูลหลังเกิดโศกนาฏกรรม

เนื้อหาในหนังสือเล่มนี้ บอกว่า ในวันที่ MH370 หายไปนั้น มีการซ้อมรบทั้งบนดิน ในน้ำ และน่านฟ้า รวมทั้งยังมีการใช้กระสุนจริงในการซ้อมรบด้วย ‘มีการยิง MH70 ตกโดยอุบัติเหตุ ไม่มีใครต้องการให้เป็นเหมือนกับโศกนาฏกรรมที่ล็อกเคอร์บี ดังนั้น ทุกคนที่เกี่ยวข้องทั้งหมดจึงต้องเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ

*อดีตนายกฯมหาเธร์ บอก CIA รู้ดี เตรื่องบินหายไปไหน!!

อดีตนายกรัฐมนตรีมหาเธร์ โมฮัมหมัด ของมาเลเซีย เคยกล่าวหา CIA (ซีไอเอ :สำนักข่าวกรองกลางของสหรัฐฯ) รู้ดีว่า MH370 หายไปไหน? โดยอดีตนายกฯมหาเธร์ ได้เขียนลงในบล็อกแห่งหนึ่ง เมื่อปี 2558 ว่ามีใครบางคนซ่อนบางสิ่งบางอย่างไว้ เพราะหากระบบ GPS ของเครื่องบินเสียหรือล้มเหลวแล้วล่ะก็ เมื่อนั้น บริษัทโบอิ้ง หรือรัฐบาลสหรัฐฯต้องรู้ว่าเป็นเพราะสาเหตุใด

อดีตนายกฯแดนเสือเหลืองคนนี้ ยังชี้ว่า เครื่องบินโดยสารถูกไฮแจ๊ค โดนจี้กลางอากาศ และระบบคอนโทรลของเครื่องบินโดนบังคับจากที่ไหนสักแห่งในระยะไกล เพราะเป็นเรื่องแน่ชัดอยู่แล้ว บริษัทโบอิ้ง และหน่วยงานต่างๆ ของสหรัฐฯ มีความสามารถในการเข้าแทรกแซงระบบควบคุมการบินของเครื่องบินโดยสารพาณิชย์ ซึ่ง MH370 เป็นเครื่องบินโบอิ้ง 777

*บังคับลงจอดที่ฐานทัพสหรัฐฯ บนเกาะดิเอโก การ์เซีย

หลังจาก MH370 สูญหายไปอย่างไร้ร่องรอย ได้มีข่าวลือสะพัดหนักตามมาว่า เครื่องบินโบอิ้ง 777 ลำนี้ของมาเลเซีย แอร์ไลน์ส อาจถูกบังคับให้ไปลงจอด ที่ฐานทัพสหรัฐฯบนเกาะดิเอโกการ์เซีย เกาะปะการังขนาดเล็กในมหาสมุทรอินเดีย ห่างจากมาเลเซียไปประมาณ 3,500 กม.

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลสหรัฐฯได้ออกมาปฏิเสธข่าวลือนี้อย่างสิ้นเชิง โดยโฆษกประจำสถานทูตสหรัฐฯ ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ได้ออกมาปฏิเสธว่าข่าวลือนี้ไม่เป็นความจริง MH370 ไม่ได้ลงจอดบนเกาะดิเอโกการ์เซีย

...

*เกิดไฟไหม้บนเครื่องบิน

หนึ่งในทฤษฎีสมคบคิดที่มีการพูดถึงอย่างมากที่สุด คือ เกิดไฟไหม้บนเครื่องบินที่ทำให้ผู้โดยสารและลูกเรือบนเครื่องบิน เสียชีวิตทั้งหมด แต่เหตุไฟไหม้เกิดขึ้นก่อนที่ภายนอกของเครื่องบินจะได้รับความเสียหาย และนี่คือสิ่งที่อธิบายว่าทำไมเครื่องบินจึงบินด้วยระบบออโตไพล็อต ได้ในระยะทางไกล!!

แหล่งข่าวทางการบิน เผยว่า ถ้าเครื่องบินเกิดไฟไหม้จริง เครื่องบินจะลงกระแทกผิวน้ำในมหาสมุทรด้วยความเร็วประมาณ 600 ไมล์ต่อชั่วโมง หลังจากร่อนลงจากเพดานบินในระดับ 35,000 ฟุต โดยแหล่งข่าวชี้ว่าหลังเชื้อเพลิงหมด เครื่องบินจะไม่ตกวูบ เหมือนก้อนหินตก แต่จะร่อนลงจากความสูง 35,000 ฟุต โดยใช้เวลาประมาณ 10-12 นาที

‘เครื่องบินจะกระแทกผิวน้ำอย่างรุนแรง เหมือนกับตอนลงจอดและกระแทกชนกับแท่งคอนกรีต ไม่มีใครสามารถรอดชีวิต’ แหล่งข่าวอธิบายถึงลักษณะเครื่องบินกระแทกผืนน้ำ พร้อมชี้ว่า หลังจากนั้น เครื่องบินจะเกิดการระเบิดอย่างรุนแรง จนปีกเครื่องบินหลุด และบางทีลำตัวเครื่องบินอาจทิ่มลง

...

*นักบินฆ่าตัวตาย?

หนึ่งในทฤษฎีสมคบคิดที่เกิดขึ้นทันทีหลังเครื่องบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ส หายไป คือ นักบินอาจฆ่าตัวตาย เพียงแต่จนถึงขณะนี้ ยังไม่มีหลักฐานบ่งชี้ว่า กัปตัน ซาฮารี อาห์หมัด ชาห์ (Zaharie Ahmad Shah) และนายฟาริค อับดุล ฮามิด (Fariq Abdul Hamid) นักบินผู้ช่วย ฆ่าตัวตายแต่อย่างใด!!

ขณะเดียวกัน ตำรวจมาเลเซียพยายามสืบสวนถึงความเป็นไปได้ว่า มีผู้โดยสารหรือลูกเรือคนใดบนเครื่องบินที่มีปัญหาป่วยทางจิตหรือไม่?  รวมถึงการตั้งข้อสันนิษฐานว่า กัปตัน หรือลูกเรืออาจลงมือจี้เครื่องบินเอง

*เครื่องบินมีรอยแตก

6 เดือนก่อนเครื่องบินโบอิ้ง 777 ของสานยการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ส จะตกนั้น สำนักงานบริหารการบินแห่งชาติสหรัฐฯ (FAA) ได้ออกคำเตือน  ว่า ให้ทุกสายการบินมีการตรวจสอบปัญหารอยแตกบนเครื่องบินโบอิ้ง 777 ที่อาจทำให้เครื่องบินระเบิดกลางอากาศ หรือความดันในห้องโดยสารตกฮวบอย่างรวดเร็ว

...

*มีสมาชิกกลุ่มก่อการร้ายบนเครื่องบิน

ถึงแม้ยังไม่มีกลุ่มก่อการร้ายกลุ่มใดออกมาอ้างความรับผิดชอบ กรณี MH370 หายไป แต่ก็ยังคงมีข้อสันนิษฐานถึงความเป็นไปได้ที่เครื่องบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ส ลำนี้อาจโดนผู้โดยสารสองคนก่อเหตุจี้เครื่องบิน เนื่องจากได้ขโมยหนังสือเดินทางของชาวออสเตรเลียและอิตาลีมาขึ้นเที่ยวบิน MH370

*ก่อเหตุร้าย เพื่อหวังเงินประกันชีวิตก้อนโต

ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติมาเลเซีย ตันซรี คาลิด อาบู บาการ์ เคยชี้ว่า สาเหตุที่โบอิ้ง 777 ลำนี้ตก อาจเกิดจากการวางแผนฆ่าตัวตาย โดยมีใครคนใดคนหนึ่งบนเครื่องบินลงมือก่อเหตุ เพื่อหวังเงินประกันชีวิตก้อนโต และต้องการให้ครอบครัวนำเงินประกันชีวิตไปใช้หนี้

เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนได้ขยายผลการสอบสวนในเรื่องนี้ด้วย โดยจะตรวจสอบรายะเอียดทุกอย่างของผู้โดยสารทุกคนบนเที่ยวบิน MH370 เพื่อหาเงื่อนปมของความเป็นไปได้ที่อาจเกิดขึ้น

เรียกว่า ทฤษฎีสมคบคิดเหล่านี้ เป็นเพียงบางส่วนเท่านั้น ของการตั้งข้อสมมติฐานถึงสาเหตุที่ทำให้เครื่องบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ส เที่ยวบิน MH370 หายไปอย่างลึกลับ

นอกเหนือจากล่าสุด นายปีเตอร์ แม็คมาฮอน วิศวกรชาวออสเตรเลีย ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในการค้นหาซากเครื่องบิน เพิ่งออกมายืนยันเมื่อไม่นานที่ผ่านมา ว่าจากการใช้ข้อมูล-ภาพถ่ายจากกูเกิลแมปส์ และนาซามานับตั้งแต่เครื่องบินสูญหาย เขาได้พบซากเที่ยวบิน MH370 แล้ว พร้อมชี้ว่า สหรัฐฯ ปิดข้อมูลเครื่องบินโดนยิงจนพรุน จนช็อกชาวโลกอย่างยิ่ง.