เมื่อเร็วๆนี้ นักนิเวศวิทยาจากมหาวิทยาลัยเอ็กซิเตอร์ ในประเทศอังกฤษ ที่ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างปลาโลมาและชาวประมงทางภาคเหนือของเกาะไซปรัส เผยว่า วิกฤตการณ์คนและสัตว์กลุ่มนี้ มีแนวโน้มย่ำแย่ลงเรื่อยๆ เนื่องจากพฤติกรรมการหาอาหารของปลาโลมาในแถบนี้เข้าข่ายเที่ยวปล้นเอาอาหารจากเรือประมง

เหล่าปลาโลมาจะใช้ยุทธวิธีแอบแฝงเข้าไปฉีกตาข่ายจับปลาเพื่อกินปลาที่อยู่ในตาข่าย ซึ่งตอนนี้ความเสียหายนับเป็นเงินก็มีมูลค่าไม่น้อยและเหตุการณ์เกิดขึ้นซ้ำๆ มากกว่า 6 ครั้งแล้ว นักนิเวศวิทยาเผยว่า ดูเหมือนว่าปลาโลมาบางตัวอาจกำลังมองหาช่องทางเพื่อหาอาหารที่ต่างไปจากเดิมๆ พร้อมกับมองว่าส่วนหนึ่งก็มาจากชาวประมงนั่นเองที่ประมาทเลินเล่อและผลักดันพฤติกรรมที่ผิดปกติของปลาโลมา อย่างไรก็ตาม บรรดานักวิจัยก็ไม่นิ่งนอนใจที่จะช่วยลดความเสียหายที่เกิดขึ้น พวกเขาได้ทดลองใช้อุปกรณ์ที่ปล่อยเสียงที่มีย่านความถี่แบบที่ปลาโลมาไม่ชอบ เพื่อขับไล่ปลาโลมาไม่ให้มาขโมยปลาในตาข่ายไปได้

นอกจากการนี้ นักวิจัยยังตรวจสอบการปรากฏตัวของปลาโลมาในภูมิภาคนี้ พร้อมกับพยายามวัดจำนวนการเสียชีวิตของปลาโลมาที่เกิดจากการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้คน โดยประมาณว่ามีปลาโลมาอย่างน้อย 10 ตัว ถูกจับได้โดยบังเอิญในแต่ละปี ส่วนอีกประเด็นน่ากังวลก็คือในตาข่ายดักปลามักจะมีพลาสติกและตาข่ายบางชนิดก็สามารถเข้าไปอยู่ในท้องปลาโลมาได้ซึ่งจะก่ออันตรายตามมา.