โลกกำลังเผชิญกับสภาวะโลกร้อนและผจญกับภัยธรรมชาติ อันเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ปลุกให้หลายๆประเทศหันมาหาวิธีพิทักษ์ปกป้องโลกของเราอย่างเร่งด่วน ล่าสุด มีรายงานว่าหน่วยงานด้านกิจการการบินของกลุ่มประเทศนอร์เวย์ ได้ตั้งเป้าที่จะลดความเสียหายแก่สิ่งแวดล้อม โดยจะพยายามลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ด้วยการใช้พลังงานไฟฟ้าซึ่งไม่ก่อมลพิษทางอากาศ

นอร์เวย์นับเป็นผู้ผลิตน้ำมันและก๊าซรายใหญ่ที่สุดในยุโรปตะวันตก และยังเป็นผู้บุกเบิกด้านการขนส่งด้วยพลังงานไฟฟ้า พวกเขาเผยถึงมาตรการใหม่คือจะให้มีการลงทะเบียนยานพาหนะใหม่ทั้งหมดที่จะไม่ปล่อยมลพิษจากการใช้ก๊าซออกสู่บรรยากาศเลยภายในปี พ.ศ.2568 ซึ่งมีการนำร่องความพยายามลดมลพิษไปแล้วจากการเปิดให้บริการเรือเฟอร์รี่พลังงานไฟฟ้าเป็นครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.2558 และคาดว่าภายในปี พ.ศ.2583 การขนส่งในนอร์เวย์จะใช้พลังไฟฟ้าทั้งหมด

ทั้งนี้ มีข้อมูลว่าการขนส่งทางอากาศส่งผลกระทบต่อภาวะโลกร้อนอยู่ประมาณ 5% จากการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์รวมถึงสารอื่นๆ เช่น ไนโตรเจนออกไซด์และไอน้ำ ด้านสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศประเมินว่า จำนวนผู้โดยสารทางอากาศอาจเพิ่มเป็น 2 เท่า ภายในปี พ.ศ.2579 ซึ่งผลกระทบจากการบินก็จะเพิ่มขึ้นด้วย จึงจำเป็นต้องมีวิธีรับมือกับปัญหาที่จะเกิดขึ้นในอนาคต อย่างไรก็ตาม สายการบินบางแห่งก็มองว่าเครื่องบินที่ขับเคลื่อนด้วยพลังไฟฟ้าอาจเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์ ซึ่งตอนนี้ 2 บริษัทผลิตเครื่องบินยักษ์ใหญ่อย่าง แอร์บัสและโบอิ้ง ก็เริ่มสำรวจแผนการใช้พลังงานไฟฟ้ากันแล้ว.