มีความกังวลว่าการผลิตของโลกจะประสบปัญหา เพราะไม่สามารถสู้ต้นทุนการผลิตจำนวนมากของจีนได้ สมัยก่อน จีนผลิตจำนวนมากและต้นทุนถูกจริง แต่คุณภาพสินค้าไม่ดี ทำให้ยังพอมีช่องว่างสำหรับสินค้าที่ผลิตในประเทศอื่น แต่ในห้วง 10 ปีที่ผ่านมา จีนใส่นวัตกรรมพัฒนาสินค้าจนมีคุณภาพหลากหลาย และสินค้าบางประเภท จีนสามารถพัฒนาคุณภาพได้ดีเท่ากับหรือดีกว่าสินค้าทางตะวันตก

ในอดีต ผู้ที่จะซื้อสินค้าจีนไปจำหน่ายต้องตระเวนไปตามมณฑลที่โรงงานผลิตตั้งอยู่ทำให้ไม่สะดวก กระทรวงพาณิชย์จีนจึงคิดสร้างศูนย์การค้านานาชาติที่เป็นสถานที่โชว์สินค้าจากทุกโรงงานมาไว้ในที่เดียวกัน ที่สุดก็ได้สร้างที่เมืองอี้อู มณฑลเจ้อเจียง ซึ่งเป็นมณฑลที่ตั้งอยู่ทางตะวันออกของประเทศ เป็นมณฑลที่มีเนื้อที่น้อยที่สุด แต่มีประชากรหนาแน่นมากที่สุดแห่งหนึ่งของจีน

ศูนย์กลางการค้านานาชาติเมืองอี้อู ที่คนมักจะรู้จักกันในชื่อ ตลาดค้าส่งสินค้าเบ็ดเตล็ดอี้อู เริ่มเปิดดำเนินการตั้งแต่ตุลาคม พ.ศ. 2549 จนถึงปัจจุบัน ทุกคนยอมรับว่า เป็นตลาดค้าส่งที่ใหญ่ที่สุดของโลก นอกจากนั้น ยังได้รับการยอมรับจากสหประชาชาติ ธนาคารโลก และสถาบันจัดอันดับชั้นนำอย่างมอร์แกน สแตนเลย์ ว่า เป็นตลาดค้าส่งที่ประสบความสำเร็จเป็นอันดับ 1 ของโลก ที่ได้รับการยอมรับกันอย่างมากคือ อี้อูเป็นตลาดที่มีผู้ค้าที่มีความน่าเชื่อถือ ในแต่ละวันจะมีนักธุรกิจหลายแสนรายเดินทางจากทั่วทุกมุมโลกมาซื้อสินค้าในตลาดแห่งนี้

โรงงานเกือบทุกแห่งของจีน จำเป็นต้องมีหน้าร้านขนาดย่อมอย่างน้อย 3 ตารางเมตรอยู่ที่ตลาดอี้อู ทำให้มีร้านค้ามากกว่า 7 หมื่นแห่ง ครอบคลุมสินค้าทั่วไป 16 หมวดใหญ่ 4,202 หมวดย่อย มีสินค้าเกือบทุกประเภทในโลกนี้ มีผู้คำนวณว่า หากใช้เวลาเดินชมสินค้าวันละ 8 ชั่วโมง ชมร้านละ 3 นาที ก็ต้องใช้เวลามากกว่า 1 ปี จึงจะชมได้ทุกร้าน

...

จากเมืองที่ไม่มีทรัพยากร อี้อูกลายเป็นเมืองที่มีความเป็นเลิศด้านการค้าระหว่างประเทศ แต่ละปีมีการเดินทางของนักธุรกิจต่างชาติเข้ามาหลายแสนกลุ่ม มีล่าม บริการขนส่งโลจิสติกส์ บริการรับแปลเอกสาร ตัวแทนศุลกากร บริการด้านวีซ่าจากหน่วยงานรัฐ ฯลฯ ทำให้ตลาดค้าส่งอี้อูที่มีเนื้อที่ 4 ล้านกว่าตารางกิโลเมตร ยาวถึง 4 กิโลเมตร ประสบความสำเร็จ

มีหลายประเทศพยายามจะทำตลาดค้าส่งแบบอี้อูให้เกิดขึ้นในแผ่นดินของตนเอง ลงทุนด้านโครงสร้างกันไปบานเบอะเยอะแยะ ในด้านกายภาพเรื่องของอาคารสถานที่ใหญ่ได้ครับ แต่แทบทุกแห่งล้มเหลว เพราะไม่มีสินค้าของประเทศตัวเองมาวาง ผู้อ่านท่านลองนึกดูก็ได้ครับว่า ที่อี้อูประสบความสำเร็จ เป็นเพราะจีนมีโรงงานผลิตนับแสนแห่ง ประเทศที่มีโรงงานแค่ระดับร้อยแห่ง พันแห่ง ไม่มีสินค้าจำนวนมากพอที่จะบรรจุลงศูนย์ค้าส่งขนาดใหญ่ระดับนี้

บั้นปลายท้ายที่สุด ก็ไม่พ้นต้องไปซื้อสินค้าจีนมาเติม ก็เป็นเรื่องของเคราะห์ซ้ำกรรมซัดนะครับ อยู่ดีๆก็นำสินค้าจีนเข้ามาทำลายการผลิตในประเทศตัวเอง

ไม่ว่าจะมองมุมใด ยากที่ประเทศต่างๆจะผลิตสินค้าแข่งกับจีน ทั้งในด้านราคาและปริมาณ มีเพียงสิ่งเดียวที่จะแก้ไขได้ก็คือ การวิจัยและพัฒนาขั้นสูงเพื่อให้มีนวัตกรรมเหนือกว่าสินค้าจีน

20 ปีที่ผ่านมา จีนพัฒนากองเรือพาณิชย์ของตนเองจนมีเครือข่ายการขนส่งระโนงโยงเยงไปทุกท่าเรือบนโลก ค่าขนส่งโดยสายการเรือจีนถูกมาก และเมื่อจีนพัฒนาการบริหารจัดการการบริการเชื่อมระหว่างสินค้า การขนส่ง ประเทศปลายทาง อี้อูก็ทะยานเหมือนกับมังกรบิน

7-11 มีนาคม 2561 ทีมงานเปิดเลนส์ส่องโลก (ช่อง 3) และเปิดฟ้าส่องโลกจะเดินทางไปเก็บภาพและเรื่องราวของศูนย์กลางการค้านานาชาติเมืองอี้อู โดยความร่วมมือของสายการบินนิวเจนแอร์เวย์ส ซึ่งเป็นสายการบินเดียวของไทยที่บินตรงจากกรุงเทพฯ ไปยังเมืองอี้อู โดยไม่ต้องต่อเครื่องหรือนั่งรถข้ามเมือง สอบถามผู้จัดการเดินทาง ยินดีให้มีผู้ร่วมเดินทางไปในครั้งนี้ด้วย ท่านใดสนใจเชิญติดต่อที่ไลน์แอดไอดี @mau1203n ติดต่อกันเอาเองครับ.

นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัย
songlok1997@gmail.com