กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ เผย เตรียมทุบงบเพิ่มการป้องกันนิวเคลียร์จากรัสเซีย ชี้แดนหมีขาวกำลังพัฒนาตอร์ปิโดอัตโนมัติ ที่สามารถติดตั้งหัวรบนิวเคลียร์ได้...

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เมื่อวันศุกร์ที่ 2 ก.พ. กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ (เพนตากอน) เผยแพร่รายงานการทบทวนบทบาททางนิวเคลียร์ของสหรัฐฯ ระบุจะทุ่มเทงบประมาณด้านนิวเคลียร์จำนวนมากจากจำนวนหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อพัฒนาด้านการป้องปรามนิวเคลียร์จากรัสเซีย

“รัสเซียยกสหรัฐฯ และองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) เป็นภัยคุกคามสูงสุดต่อความทะเยอทะยานทางภูมิรัฐศาสตร์ของพวกเขา” รายงานของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ระบุ “ไม่นานมานี้ สำนักงานข่าวกรองกลาโหม (DIA) ประเมินว่า รัสเซียมีอาวุธนิวเคลียร์พิสัยไม่เกิน 5,500 กม. (non-strategic nuclear weapon) เก็บไว้ถึง 2,000 ลูก รวมทั้ง ขีปนาวุธพิสัยใกล้, ระเบิดแรงดิ่ง (gravity bomb) และระเบิดน้ำลึก (depth charge) ที่สามารถติดตั้งบนเครื่องบินทิ้งระเบิดพิสัยกลางได้”

แพทริก ชานาฮาน รัฐมนตรีช่วยกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ
แพทริก ชานาฮาน รัฐมนตรีช่วยกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ

...

DIA ยังประเมินด้วยว่า รัสเซียมีขีปนาวุธนิวเคลียร์ต่อต้านเรือรบและเรือดำน้ำ รวมทั้งกำลังพัฒนาตอร์ปิโดอัตโนมัติติดตั้งหัวรบนิวเคลียร์ ทำให้พวกเขาสงสัยว่า รัสเซียจะต้องการระเบิดนิวเคลียร์น้ำลึกไปทำไม

อนึ่ง ตอร์ปิโดดังกล่าวถูกเรียกว่า ระบบ ‘สตาตัส-6’ เป็นอุปกรณ์ประเภทโดรนที่ถูกยิงใต้ทะเล สามารถเดินทางได้ไกลหลายพันไมล์ และโจมตีเป้าหมายตามชายฝั่งสหรัฐฯ อย่างเช่น ฐานทัพหรือเมืองต่างๆ ได้ ทำให้นักวิเคราะห์บางคนขนานนามมันว่า ‘อาวุธมหาประลัย’ (doomsday weapon)

อย่างไรก็ตามนาย แพทริก ชานาฮาน รัฐมนตรีช่วยกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ กล่าวว่า รายงานดังกล่าวเป็นสิ่งยืนยันว่ารากฐานของนโยบายนิวเคลียร์ของสหรัฐฯ คือการป้องปราม รวมทั้งมุ่งมั่นที่จะลดและป้องกันการแพร่กระจายของอาวุธนิวเคลียร์

ที่มา: cnn