การสร้างวาทกรรมทางการเมือง หรือข้อหาอาญา เพื่อใช้ “กีดกัน” นักการเมืองคู่แข่งที่มีศักยภาพ ไม่ให้สามารถเข้ามาแข่งกับตนได้ ได้กลายเป็นเรื่องธรรมดาไปซะแล้วในหลายประเทศ
อย่างที่กัมพูชา ทุกโพลสำรวจพบว่า การเลือกตั้งทั่วไปในวันอาทิตย์ที่ 29 กรกฎาคม 2561 พรรคกู้ชาติกัมพูชาที่นำโดยนายกึม ซกคา มีโอกาสชนะสูง แม้แต่การเลือกตั้งเมื่อ พ.ศ.2556 การนับคะแนนในตอนหัวค่ำ พรรคกู้ชาติกัมพูชานำโด่ง พอมีพักโฆษณาคั่นการรายงานทางโทรทัศน์และวิทยุ อ้าว พรรคประชาชนกัมพูชาของสมเด็จฯฮุนเซ็นกลับได้ ส.ส.มากกว่าพรรคกู้ชาติกัมพูชา 3 คน และได้เป็นรัฐบาล ครองอำนาจต่อไปได้อีก 5 ปี
เพื่อไม่ให้มาแข่งขันในการเลือกตั้งได้ต่อไปอีก ก็มีการโยนข้อหาว่านายกึมว่าสมรู้ร่วมคิดกับสหรัฐฯ กระทำการอันเป็นปรปักษ์ต่อรัฐบาล และก็นำกำลังตำรวจไปจับนายกึมเมื่อ 3 กันยายน 2560 แถมยุบพรรคเสร็จสรรพเรียบร้อย การเลือกตั้งครั้งที่จะถึงในเดือนกรกฎาคม 2561 พรรคของฮุนเซ็นจึงไม่มีคู่แข่งที่แข็งแรง
ส่วนนายกึมก็ต้องย้ายไปนอนคุก มีโอกาสติดคุก 30 ปี ส.ส.ของพรรคกู้ชาติกัมพูชาก็บ้านแตกสาแหรกขาด แยกย้ายหลบหนีไปอยู่ในต่างประเทศเสียส่วนมาก
พ.ศ.2536-2541 ดาโต๊ะ ซรีอันวาร์ บิน อิบราฮิม เป็นรองนายกรัฐมนตรีที่ใครก็มองออกว่า แกจะต้องได้เป็นนายกรัฐมนตรีมาเลเซียแทน ดร.มหาเธร์ บิน โมฮัมหมัด อยู่พรรคเดียวกัน เป็นรองนายกฯ เป็นรัฐมนตรีคลัง ยังไงซะก็หนีไม่พ้นต้องได้เป็นผู้นำ แต่พออันวาร์เผลอวิจารณ์ ดร.มหาเธร์นิดหน่อยเท่านั้น พ.ศ.2542 ก็โดนจับข้อหาทุจริต ต้องติดคุก 6 ปี พอถึง พ.ศ.2543 ก็ถูกตัดสินจำคุกอีก 9 ปี ข้อหาร่วมเพศทางทวารหนัก
พ.ศ.2547 ศาลสหพันธรัฐกลับการพิพากษาทำให้อันวาร์ได้รับการปล่อยตัว และก็ได้ออกมาโลดแล่นทางการเมืองอีกรอบ ขณะกำลังเป็นดาวเด่น ตอนนั้นใครๆก็คิดว่า พรรคที่นำโดยอันวาร์จะต้องชนะการเลือกตั้งและพลิกขั้วมาได้เป็นรัฐบาล อ้าว โดนจับอีกรอบด้วยข้อหาขาประจำคือ ร่วมเพศกับเพื่อนร่วมงานชายทางทหารหนัก
...
เข้าคุกไปได้พักหนึ่ง ศาลพิพากษายกฟ้องในเดือนมกราคม พ.ศ.2555 ตอนนั้นการเมืองมาเลเซียแรงขนาดโพลหลายแห่งบอกว่าฝ่ายค้านที่นำโดยอันวาร์มีโอกาสชนะ พ.ศ.2558 ศาลกลางมาเลเซียเอาอันวาร์เข้าคุกอีกแล้ว ด้วยข้อหาเดิมๆ ที่โยนใส่อันวาร์เป็นประจำก็คือ ประพฤติผิดศีลธรรม มีพฤติกรรมรักร่วมเพศ ซึ่งพวกฮิวแมนไรท์วอตช์และคณะกรรมการนักนิติศาสตร์ระหว่างประเทศติดตามเรื่องนี้และชี้ให้เห็นว่า เป็นการโยนข้อหาให้เพื่อยับยั้งไม่ให้สามารถมาแข่งขันทางการเมืองเท่านั้น
มองไปทั้งแผ่นดินรัสเซีย หาคนที่จะมาเป็นคู่แข่งประธานาธิบดีปูตินได้ยากเต็มที จะมีก็เพียง 2 คนเท่านั้นที่ในอนาคตสามารถสั่นสะเทือนบัลลังก์ของปูตินได้ก็คือ นายบอริส เนียมซอฟ อดีตรองนายกรัฐมนตรี กับนายอเล็กซี นาวาลนี ผู้นำฝ่ายค้าน
ปูตินเป็นคนเก่ง แต่การที่นั่งเป็นผู้นำทั้งตำแหน่งนายกรัฐมนตรีและประธานาธิบดีเกินสิบปี ทำให้ประชาชนคนรัสเซียบางส่วนเริ่มเบื่อ และหันไปมองเนียมซอฟและนาวาลนีกันมากขึ้นเรื่อยๆ
28 กุมภาพันธ์ 2558 นายเนียมซอฟถูกยิงตายกลายเป็นผีใกล้ทำเนียบเครมลิน ในกรุงมอสโก คะแนนของผู้คนที่ไม่ชอบปูตินก็ไปเทให้นายนาวาลนี พวกต่างประเทศที่ไม่ชอบปูตินก็แอบหนุนนายนาวาลนีกันน่าดู
วันดีคืนดีก็มีการจับกุมนายนาวาลนีในคดีการเงิน ซึ่งแม้แต่ไอ้ปื๊ดที่มีก้อนสมองและแรมน้อยที่สุดในโลกก็รู้ว่า นี่เป็นการหยุดนายนาวาลนีไม่ให้มาลงสมัครแข่งตำแหน่งประธานาธิบดีกับปูติน
บั้นปลายท้ายที่สุด นายนาวาลนีก็กลายเป็นนักโทษ และขาดคุณสมบัติในการลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีแข่งกับปูติน และแน่นอนครับว่า การเลือกตั้งประธานาธิบดีรัสเซียครั้งต่อไป ปูตินก็จะได้กลับมาเป็นประธานาธิบดีอีก
โชคดีนะครับ ที่ราชอาณาจักรไทยไชโยของเราไม่มีเกมสกปรกที่เตะตัดขาคนที่มีศักยภาพที่จะเป็นผู้นำแข่งกับผู้นำ
การเมืองไทยของเราสะอาดมาก
การเมืองไทยของเราบริสุทธิ์มาก
คนไทยโชคดีเหลือเกิน
คนไทยโชคดีจริงๆ.
นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัย