หลายพื้นที่ในกรุงปารีสของฝรั่งเศส โดยเฉพาะแถบริมฝั่งแม่น้ำแซน เผชิญสภาพระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอดสุดสัปดาห์ ทางการฝรั่งเศสอยู่ระหว่างเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เนื่องจากน้ำไหลล้นฝั่งท่วมอาคารสถานที่หลายแห่งหลังเกิดฝนตกหนัก โดยเมื่อช่วงเย็นวันเสาร์ 27 ม.ค. ตามเวลาท้องถิ่น ระดับน้ำของแม่น้ำในบางพื้นที่สูงถึง 5.95 เมตร ทั้งๆที่ค่าเฉลี่ยระดับน้ำปกติอยู่ที่ราว 4 เมตร

สถานการณ์ส่งผลกระทบถึงการท่องเที่ยวเรือล่องแม่น้ำชมเมือง พิพิธภัณฑ์ชื่อดัง “ลูฟร์” ใกล้ฝั่งแม่น้ำแซนต้องถูกปิดให้บริการนักท่องเที่ยวนานแล้ว 4 วัน เช่นเดียวกับพิพิธภัณฑ์อื่นๆที่เร่งเสริมความแข็งแกร่งของชั้นใต้ดิน กระนั้นระดับน้ำท่วมปีนี้ยังถือว่าไม่มากเท่ากับช่วงปี 2453 ซึ่งทำให้กรุงปารีสจมมิดเกือบทั้งเมืองนานถึง 2 เดือน และระดับน้ำท่วมเมื่อช่วงปี 2559 สูงเฉลี่ยราว 6.1 เมตร

...

ทางการฝรั่งเศสระบุด้วยว่า อาคารบ้านเรือนแถบริมฝั่งแม่น้ำแซนในเขตกรุงปารีส เริ่มมีน้ำซึมเข้าชั้นใต้ดินของอาคาร หนูจำนวนมากพากันหนีน้ำท่วมขึ้นที่สูง ขณะที่ถนนหลายสายแถบริมแม่น้ำมีเป็ด หรือหงส์ลอยคอว่ายน้ำเล่นอย่างเพลิดเพลิน ส่วนผู้คนเริ่มอพยพหนีน้ำท่วมแล้วราว 1,000 ครัวเรือน เตรียมพร้อมอพยพอีกราว 1,500 ครัวเรือน ศูนย์ดูแลผู้ป่วยแห่งหนึ่งต้องอพยพผู้คนหนีน้ำท่วมอีก 86 คน

นอกจากนี้ สำนักข่าวบีบีซีของอังกฤษรายงานด้วยว่า จุดสังเกตระดับความสูงของน้ำสามารถดูได้จากรูปปั้นทหารฝรั่งเศสในสงครามไครเมีย ที่สะพานอัลมา หรือปองต์ เดอ ล’อัลมา ซึ่งเมื่อคราวน้ำท่วมใหญ่ปี 2453 นั้น ระดับน้ำได้สูงถึงคอของรูปปั้นทหาร แต่ในช่วงสุดสัปดาห์นี้ น้ำยังสูงแค่ระดับเอวของรูปปั้น ส่วนชาวฝรั่งเศสในบางพื้นที่ยังให้ความเห็นแง่บวก โดยระบุว่า รู้สึกดีเหมือนกันที่รถบนถนนหายไปและมีเป็ดว่ายน้ำเล่นแทน

อย่างไรก็ตาม กรมอุตุนิยมวิทยาฝรั่งเศสคาดคะเนว่า สถานการณ์จะยังเลวร้ายไปตลอดช่วงสัปดาห์แต่จะดีขึ้นหลังจากนั้น พร้อมเตรียมลดระดับการเตือนภัยน้ำท่วมในหลายพื้นที่ จากสีส้มเป็นสีเหลือง แต่ย้ำว่าระดับน้ำจะลดตัวช้าอาจกินเวลาหลายสัปดาห์เนื่องจากดินอมน้ำ พร้อมระบุด้วยว่า เหตุน้ำท่วมครั้งนี้มีความรุนแรงเป็นอันดับ 3 นับตั้งแต่เก็บสถิติมาเป็นเวลากว่า 118 ปี.