สื่อสหรัฐฯรวมทั้ง นสพ.วอชิงตัน โพสต์ และนิวยอร์ก ไทม์ส รายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ระเบิดวาจาสุดหยาบคายพูดถึงผู้อพยพ ระหว่างพบปะกับเหล่าสมาชิกสภาคองเกรสจากทั้งพรรครีพับลิกันและเดโมแครต ที่ทำเนียบขาว เมื่อ 11 ม.ค. เพื่อหารือเรื่องข้อตกลงแก้ปัญหาผู้อพยพซึ่งทรัมป์พยายามกีดกันขับไล่ โดยทรัมป์พูดว่า “ทำไมเราต้องให้ผู้คนจากประเทศ “Shithole” (รูอุจจาระหรือสวะ) เข้ามาที่นี่ ทำไมเราต้องรับคนเฮติเพิ่มอีก เอาพวกเขาออกไป”

คาดว่า ประเทศสวะของทรัมป์หมายถึงเฮติ, เอลซัลวาดอร์ และชาติแอฟริกา เขายังพูดว่า สหรัฐฯ ควรรับผู้อพยพจากประเทศอื่น เช่น นอร์เวย์แทน หลังพบปะกับนายกฯนอร์เวย์ เมื่อ 10 ม.ค. ซึ่งคำพูดของทรัมป์ทำให้ผู้ร่วมประชุมตกตะลึง และถูกหลายฝ่ายโจมตีอย่างรุนแรง ด้านทำเนียบขาวไม่ปฏิเสธว่าทรัมป์พูดเช่นนั้น โดยนายราช ชาห์ โฆษกทำเนียบขาวแถลงว่า นักการเมืองในวอชิงตันบางคนเลือกต่อสู้เพื่อต่างชาติ แต่ทรัมป์จะต่อสู้เพื่อชาวอเมริกัน และกำลังต่อสู้เพื่อแก้ปัญหาอย่างถาวรซึ่งจะทำให้สหรัฐฯ แข็งแกร่งขึ้น ด้วยการต้อนรับผู้ที่มีประโยชน์ต่อสังคม ทำให้เศรษฐกิจเติบโต และหลอมรวมเข้าสู่ประเทศอันยิ่งใหญ่ของเราได้

ทรัมป์ยังโพสต์ข้อความในทวิตเตอร์ ประกาศยกเลิกการเดินทางเยือนอังกฤษในเดือน ก.พ.นี้ ซึ่งคาดหมายว่าเขาจะไปเป็นประธานพิธีเปิดสถานทูตสหรัฐฯแห่งใหม่ มูลค่า 1,200 ล้านดอลลาร์ด้วย โดยทรัมป์ระบุว่าตนไม่ใช่ “แฟนตัวยง” ของรัฐบาลประธานาธิบดีบารัค โอบามา ซึ่งขายสถานทูตเก่าในย่านเมย์แฟร์ไปอยู่แห่งใหม่ในย่านว็อกซ์ฮอลล์ทางใต้กรุงลอนดอน เป็นการขายทำเลทองไปอยู่ทำเลที่แย่มาก “ต้องการให้ผมไปตัดริบบิ้นหรือ-ไม่!” ทรัมป์กล่าว ทั้งที่การตัดสินใจย้ายสถานทูตมีขึ้นตั้งแต่เดือน ต.ค.2551 ยุคประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู. บุช ก่อนหน้านี้ นายกฯเทเรซา เมย์ แห่งอังกฤษ ได้เชิญทรัมป์ไปเยือนอังกฤษแบบรัฐพิธี แต่ยังไม่ระบุวันเวลาแน่ชัด

...

วันเดียวกัน สื่อสหรัฐฯรายงานโดยอ้างแหล่งข่าววงในว่า ทรัมป์จะขยายเวลาพักมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านต่อไป ซึ่งจะทำให้ข้อตกลงนิวเคลียร์ที่เหล่าชาติมหาอำนาจโลกทำไว้กับอิหร่านตั้งแต่ปี 2558 ในยุครัฐบาลโอบามายังมีผลใช้บังคับต่อไปได้ ถึงแม้ก่อนหน้านี้ ทรัมป์ขู่จะยกเลิกข้อตกลงดังกล่าว และมีกำหนดเส้นตายใน 12 ม.ค.ว่าจะขยายเวลาการพักมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านอีกหรือไม่