เรื่องราวของ แฝดสยาม “อิน-จัน” ซึ่งเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก จากการที่เป็นแฝดติดกันที่มีชีวิตอยู่ และมีทายาทสืบสกุลมาจนปัจจุบันมากมาย และได้รับยกย่องว่าเป็นผู้บุกเบิกความสัมพันธ์ระหว่างไทย-สหรัฐฯอย่างแนบแน่น
ย้อนอดีตแฝด “อิน-จัน” เกิดวันที่ 11 พ.ค.2354 ที่ จ.สมุทรสงคราม บิดาชื่อนายที ชาวจีนอพยพ กับมารดาชาวไทยชื่อนางนาก ทั้ง 2 คนสร้างความประหลาดใจแก่ผู้คน เนื่องจากเป็นฝาแฝดลำตัวติดกัน ไม่เหมือนฝาแฝดอื่นๆที่เสียชีวิต แต่ “อิน-จัน” มีชีวิตเติบโตและใช้ชีวิตเหมือนคนปกติ
...
ในขณะนั้นตามกฎหมาย ทั้งคู่ต้องถูกประหารชีวิต เนื่องจากความเชื่อว่าเป็นกาลกิณี แต่เวลาผ่านไปไม่มีเหตุการณ์ใดๆตามความเชื่อ โทษนั้นจึงได้รับการยกเลิก
ภายหลังบิดาเสียชีวิตขณะอายุได้ 2 ขวบ มารดาจึงยึดอาชีพค้าขายเลี้ยงดูบุตรฝาแฝด จนในปี 2367 พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 2 ทรงทราบถึงความเป็นเด็กพิเศษของทั้งคู่ จึงโปรดเกล้าฯให้ นางนาก มารดา นำ “อิน-จัน” เข้าเฝ้าฯ และในปี 2370 มีพระบรมราชานุญาตให้ อิน-จัน เดินทางร่วมไปกับคณะทูตเพื่อเจริญสัมพันธไมตรีกับประเทศโคชินไชน่า (เวียดนามในปัจจุบัน)
ต่อมาปี 2367 นายโรเบิร์ต ฮันเตอร์ หรือ “นายหันแตร” พ่อค้าชาวอังกฤษ มาเห็น “อิน-จัน” ตัวติดกันว่ายน้ำเล่นจึงประหลาดใจและสนใจตีสนิทกับครอบครัว เพื่อจะนำ “อิน-จัน” ไปแสดงโชว์ตัวที่สหรัฐฯ จากนั้นวันที่ 1 เม.ย.2372 นายอาเบล คอฟฟิน กัปตันเรือสินค้า “เดอะ ชาเคม” เป็นผู้นำแฝด “อิน-จัน” ขณะอายุได้ 18 ปี ไปยังนครบอสตัน รัฐแมสซาชูเสตต์ สหรัฐฯ ใช้เวลาเดินทาง 180 วัน
แฝด “อิน-จัน” เปิดโชว์ตัวที่นครบอสตัน ก่อนจะออกแสดงทั่วสหรัฐฯและยุโรป 2 ปีแรก ทั้งคู่ได้ส่วนแบ่ง จนอายุครบ 20 ปี สัญญาจึงสิ้นสุด ทั้งคู่จึงเปิดการแสดงเองทั่วสหรัฐฯ จนกระทั่งอายุได้ 28 ปี จึงปักหลักใช้ชีวิตที่หมู่บ้านแทรปฮิลล์ ชานเมืองวิลล์ โบโร เคาน์ตี้วิลล์ รัฐนอร์ทแคโรไลนา เปลี่ยนชื่อและสัญชาติเป็นอเมริกันในชื่อ เอ็ง-ชาง บังเกอร์
แม้จะเป็นแฝดตัวติดกัน แต่ “อิน-จัน” ก็แต่งงานกับหญิงอเมริกัน อินมีบุตร 11 คน จันมีบุตร 10 คน รวม 21 คน ระหว่างมีชีวิตทั้งคู่เคยคิดจะผ่าตัดแยกร่าง แต่สุดท้ายไม่ได้ผ่าตัด จนกระทั่งวันที่ 17 ม.ค.2417 จันผู้น้องป่วยเสียชีวิตลงก่อน จากนั้น 2 ชั่วโมงอินจึงเสียชีวิตตามไป ลูกหลานเหลนสืบทายาทจนปัจจุบันกว่า 1,500 คน
...
ทุกปีทายาทของ แฝด “อิน-จัน” จะจัดงาน “วันรวมญาติ ทายาทแฝดอิน-จัน” ทุกวันเสาร์สุดท้ายของเดือน ก.ค. เพื่อรำลึกถึงบรรพบุรุษคือ “อิน-จัน” ที่โบสถ์เฟิร์สต์แบพติสท์เฟลโลว์ชิพฮอลล์ เมืองเมท์แอรี รัฐนอร์ทแคโรไลนา ที่อินและจันใช้ชีวิตกว่า 30 ปี
สำหรับปีนี้เพิ่งจัดงานเป็นครั้งที่ 28 เมื่อวันที่ 30 ก.ค. ที่ผ่านมา โดย นายพิศาล มาณวพัฒน์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. พร้อมด้วย นายภิเษก ภาณุภัทร อัครราชทูตที่ปรึกษาพิเศษ และคณะเจ้าหน้าที่จากสถานทูตไทยได้ไปร่วมงาน
...
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ได้สนับสนุนการจัดงานวันรวมญาติดังกล่าว ด้วยการจัดอาหารไทย นิทรรศการ หนังสือและสิ่งพิมพ์นำเที่ยวประเทศไทย รวมทั้งของที่ระลึกแบบไทยๆ ให้ผู้เข้าร่วมงานซึ่งส่วนใหญ่เป็นทายาทสกุล “บังเกอร์” รุ่นที่ 4-6 ประมาณ 300 คน
นายเดวิด โรว์ นายกเมืองเมาท์แอรี นายดีน บราวน์ ผู้ช่วยนายกเทศมนตรี รวมทั้งชุมชนคนไทยในรัฐนอร์ทแคโรไลนาและใกล้เคียง นำโดย นายสุรพล สัจจวาณิชย์ นายกสมาคมคนไทยในรัฐนอร์ทแคโรไลนา ตลอดจนสื่อมวลชนท้องถิ่นสนใจรายงานข่าว และเข้าร่วมงานจำนวนมาก
นายพิศาล กล่าวในนามประเทศไทยถึงความสำคัญของ อิน-จัน ที่นำมาซึ่งการสานสัมพันธ์ในระดับประชาชน เรื่องราวของ อิน-จัน เป็นเรื่องราวของความรัก ความอดทน ความฝันของชาวอเมริกันที่อยู่บนรากฐานของการทำงานหนักและความมีน้ำใจต่อกันและกัน ลูกหลานของ อิน-จัน จึงควรภูมิใจที่ได้เป็นกำลังสำคัญในการยึดโยงความสัมพันธ์ระดับประชาชนของประเทศทั้งสองไว้
...
“ภายหลังจากที่ อิน-จัน เดินทางมาถึงสหรัฐฯเพียงสี่ปี ประธานาธิบดีแอนดรูว์ แจ็คสัน ได้ลงนามสนธิสัญญาไมตรีกับ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ทำให้ไทยเป็นมิตรเก่าแก่ในเอเชียประเทศแรกๆ ที่มีสนธิสัญญากับสหรัฐฯ ได้เป็นพันธมิตรด้านการทหาร มีความร่วมมือที่แน่นแฟ้นด้านความมั่นคง เศรษฐกิจ และด้านต่างๆ ขณะนี้ประธานาธิบดี ทรัมป์ ได้แสดงความปรารถนาชัดเจนที่จะกระชับความสัมพันธ์กับพันธมิตรเก่าแก่เช่นประเทศไทยให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น” นายพิศาล กล่าว
พร้อมกันนี้ นายพิศาล ได้กล่าวเทิดพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพล อดุลยเดช ในฐานะที่ทรงพระราชสมภพในสหรัฐฯ และมีบทบาทสำคัญในการกระชับความสัมพันธ์ ไทย-สหรัฐฯ ให้แน่นแฟ้นมาจนถึงทุกวันนี้
ด้านทายาทของแฝด “อิน-จัน” โดยเฉพาะสองพี่น้อง นายแซค แบลคมอน และ นางธันยา โจนส์ กำลังผลักดันและหางบประมาณ 1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ มาสนับสนุนการขยายห้องชุดนิทรรศการประวัติอิน-จัน ซึ่งปัจจุบันอยู่ในอาคารเดียวกันกับพิพิธภัณฑ์ แอนดี กริฟฟิธ ดารานักแสดงนำที่มีชื่อเสียงของสหรัฐฯ มีคนชมปีละหลายหมื่นคน
ที่สำคัญคือกำลังหาแบบก่อสร้างหุ่นสัมฤทธิ์ “อิน-จัน” คล้ายอนุสรณ์สถานที่ จ.สมุทรสาคร ไปตั้งหน้าพิพิธภัณฑ์ที่เมืองเมาท์-แอรี เพื่อเป็นแหล่งศึกษาประวัติ “อิน-จัน” และสานสัมพันธ์ระดับประชาชนชาวไทย-อเมริกันอย่างแนบแน่นตลอดไป.
วิชัย มะลิกุล