สาวใหญ่เมืองมะขามหวาน เกิดน้อยใจคิดสั้นโดนคลองรังสิตดับ หน่วยกู้ภัยระดมหานาน 2 ชั่วโมงจึงพบศพ ตร.พบจดหมายลาตายบริเวณท่าจอดเรือ คาดทรมาณจากโรครุมเร้าโดยจะติดต่อญาติมารับศพต่อไป...
เมื่อเวลา 20.00 น.วันที่ 2 ก.ค.60 ร.ต.ท.สุรภัทร์ รัตนตรัยวงศ์ รองสารวัตรสอบสวน สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ จ.ปทุมธานี ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่าพบกระเป๋าต้องสงสัยและพบว่ามีจดหมายเขียนลักษณะลาตาย โดยถูกวางทิ้งไว้บริเวณท่าจอดเรือที่ 1 คลองรังสิตประยูรษักดิ์ ตรงข้ามโรงเรียนประชาธิปัตย์วิทยาคาร ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี หลังรับแจ้งประสานกู้ภัยทางน้ำ และรีบไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู โดยในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบกระเป๋าสะพานหลังลายการ์ตูนหลากสี วางอยู่ริมท่าน้ำ ใกล้กับพบจดหมายเขียนข้อความว่า
"พี่ข้างห้องทุกคนจ๋าหนูขอโทษที่เสียงดัง มันคงดังอีกไม่กี่วันแล้ว เพราะหนูเป็นโรคตั้ง 4 โรค โรคหอบ โรคกระเพาะ โรคเครียด ตอนที่หนูไปนอนโรงพยาบาล หนูได้เอ็กซเรย์ 4 ครั้ง แล้ววันที่ 13 หมอนัดอีกให้ไปฟังผลแต่คงไม่ถึงวันที่ 13 หรอกหนูคงเสียชีวิตก่อนเพราะว่าหนู เพราะว่าหนูไม่ได้กินข้าว กินทำไมกินเข้าไปก็บ่นขอกินนมวันละกล่องยังโดนด่า เพราะว่าประกันชีวิตหนูหมด แต่ที่เขาทำดีกับหนูประกันชีวิตยังไม่หมด ลองคิดดูว่า เขามีเมียน้อยจริงหรือป่าว เพราะแต่ก่อนหนูไม่เคยจน แต่พอหนูไปนอนโรงพยาบาลอะไรก็หมด เงินที่เขากู้เป็นแสนก็หมด ทองก็หาย หนูอยู่ทุกวันนี้หนูไม่รู้จะอยู่เพื่ออะไร มีลูกชายทำงานได้ให้ได้วันละ 100 แต่หนูไม่เคยได้กินอะไรเลยเพราะเขาด่า เหมียว
นอกจากนี้ยังพบใบส่งตัว ระบุ จากศูนย์แพทย์ปฐมภูมิและแพทย์แผนไทยประยุกต์ คณะแพทย์ ถึง โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ชื่อ นส.ลำเพียร สอนเวช อายุ 46 ปี บ้านเลขที่ 355/730 หมู่ 15 ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี และใบนัดพบแพทย์ในวันที่ 13 ก.ค. 60 ของโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ และบัตรประชาชนระบุชื่อ นส.ลำเพียร สอนเวช อายุ 46 ปี บ้านเลขที่ 423/1 หมู่ 7 ต.บึงสามพัน อ.บึงสามพัน จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งในเบื้องต้นคาดว่าผู้ที่เขียนจดหมายดังกล่าวอาจจะกระโดดน้ำเพื่อฆ่าตัวตายจึงได้ให้กู้ภัยช่วกันลงงมหาโดยใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงจึงพบศพซึ่งห่างจากท่าเรือไปประมาณ 50 เมตร
...
ด้าน ร.ต.ท.สุรภัทร์ รัตนตรัยวงศ์ รองสารวัตรสอบสวน สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ กล่าวว่า ในเบื้องต้นจะได้ติดตามญาติของผู้เสียชีวิตตามที่อยู่ที่ระบุไว้ในบัตรส่งตัวของทางโรงพยาบาลและทะเบียนบ้านตามบัตรประชาชน เพื่อให้มาดูศพ ก่อนที่จะมอบให้ทางมูลนิธิฯ นำส่งพิสูจน์ยังสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เพื่อหาสาเหตุการตายที่แท้จริงต่อไป.