กำนันบึงกาฬ ยัน นายฉลอง ไม่ได้ผูกคอตายเพราะราคายางตก แต่เกิดจากเป็นหนี้มาก ไม่สามารถหาเงินใช้คืนได้ ประกอบกับถูกกดดันเพราะต้องคืนหนี้ อีกทั้งลูกชายถูกจับคดียา อาจทำให้คิดมาก เครียด ไร้ทางออก จนก่อเหตุสุดสลด
จากกรณีที่ นายฉลอง สุพรหม อายุ 61 ปี บ้านเลขที่ 133 หมู่ 3 บ้านหัวแฮด ต.ท่าสะอาด อ.เซกา จ.บึงกาฬ ได้ใช้เชือกผูกคอตายติดกับคานจั่วในเพิงพักกลางทุ่งนา สาเหตุเกิดจากความเครียดที่ไม่มีเงินใช้หนี้ จากการสอบสวน นางร้อยแก้ว สุพรหม อายุ 58 ปี ภรรยา บอกเพียงว่า ผู้ตายเคยบ่นว่า ขายยางได้ราคาน้อย 5 กิโลกรัม ขายได้ 100 บาท ได้เงินมาจึงไม่ค่อยพอใช้หนี้ ตามข่าวที่ได้เสนอไปแล้วนั้น
เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 22 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวได้สัมภาษณ์ นายสำราญ ทองหล่อ กำนันตำบลท่าสะอาดทางโทรศัพท์ ซึ่งมีบ้านอยู่ติดกับผู้ตาย โดย นายสำราญ กำนัน ได้เล่าว่า นายฉลอง ผู้ตายไม่เคยมีสวนยางพารา อาชีพหลักก็คือทำนา หลังจากเสร็จหน้านาก็ขับรถกระบะออกตระเวนหารับซื้อขยะ หรือของเก่าไปขาย ส่วนสาเหตุของการผูกคอตายนั้น หลักๆ น่าจะเกิดมาจาก 3 ส่วน คือ 1. ผู้ตายเป็นหนี้กองทุนเงินล้านของหมู่บ้าน จำนวนเงิน 1 แสนบาท โดยในระยะนี้ เป็นการส่งดอกเบี้ยและเงินต้นคืนให้กับกองทุนเงินล้าน แต่ผู้ตายยังหาเงินมาใช้หนี้ไม่ได้ ถูกเพื่อนบ้านและสมาชิกกลุ่มต่อว่า กดดัน เนื่องจากสมาชิกที่ยืมเงินล้านไปด้วยกัน ได้ยืมเงินนอกระบบหมุนเวียนระยะสั้นมาใช้หนี้กองทุนเงินล้านจนครบทุกคนแล้ว คงเหลือแต่ผู้ตาย แต่เมื่อสมาชิกยังคงติดค้างไม่ใช้หนี้ สมาชิกที่ส่งดอก ส่งต้นไปแล้ว ทั้งหมดจึงกู้เงินออกไปรอบใหม่ไม่ได้ จำต้องเสียดอกเบี้ยระยะสั้น คือ 7 วัน ที่ยืมนายทุนมาส่งดอกส่งต้นเพิ่มขึ้นอีก ทำให้เป็นภาระ จึงถูกต่อว่าและกดดันจากสมาชิกคนอื่น
...
สาเหตุเรื่องที่ 2 ก็คือ ผู้ตายได้ไปยืมเงินนอกระบบ จำนวน 10,000 บาท โดยถูกหักดอกเบี้ยไป 2,000 ก่อน ส่วนที่เหลืออีก 8,000 บาท ต้องผ่อนชำระภายใน 24 วัน
สาเหตุเรื่องที่ 3 ก็คือ เมื่อไม่นานมานี้ลูกชายคนเล็กผู้ตาย ซึ่งเรียนหนังสืออยู่ที่วิทยาลัยแห่งหนึ่ง ได้ถูกจับกุมคดียาบ้าไปพร้อมกับลูกพี่ และลูกพี่คนนั้นรับว่า จะประกันตัวให้ด้วย แต่พอเวลามาถึงกับประกันตัวไปเฉพาะลูกพี่ ส่วนลูกชายของผู้ตายไม่ยอมประกันออกไปให้ด้วย จึงเกิดความเคียดแค้น และเสียใจที่ลูกชายมาถูกจับกุมในครั้งนี้ ทำให้คิดไม่ตก หาทางออกไม่ได้ จึงผูกคอตายดังกล่าว