คำสั่งแต่งตั้งออกมาแล้ว มีทั้งผู้ผิดหวังและสมหวัง หลายตำแหน่งมีคนตั้งคำถาม ขณะที่บางส่วนมีเสียงยี้ บางรายงงเป็นไก่ตาแตก ทำงานในสายอยู่ดีๆ ถูกผลักไปอยู่งานสอบสวน ทั้งที่ไม่เคยทำมาเลยตลอดชีวิต แต่นี่คือวิถีของชีวิต เป็นข้าราชการตำรวจต้องเตรียมใจ และทำใจยอมรับมันให้ได้ หาไม่แล้วการทำงานในหน้าที่คงไม่มีประสิทธิภาพพอจะดูแลทุกข์สุขของประชาชน หลับตาข่มใจทำหน้าที่ให้ดี เพราะการแต่งตั้งมีทุกปี และคงไม่ใช่ทุกครั้งที่ผิดหวัง
สำหรับนายตำรวจที่โยกย้ายในครั้งนี้ มีตำแหน่งที่น่าจับตามองหลายตำแหน่ง หลังจากยืดเยื้อรอมานาน ก็เพิ่งคลอดเสร็จไปได้ไม่เท่าไร ทั้งที่ความจริงต้องเสร็จสิ้นกระบวนความตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา และนี่คือบางส่วนของการแต่งตั้งที่น่าสนใจ
"พ.ต.อ.กำธร อุ่ยเจริญ" ผกก.กลุ่มงานเก็บกู้วัตถุระเบิด บก.สปพ. ขึ้นเป็น รอง ผบก.สปพ. หรือ 191
ตัวหลักทำงานด้านระเบิดในนครบาลมาต่อเนื่องยาวนาน ฝีมือเป็นที่ยอมรับ โดยเฉพาะช่วงที่มีสถานการณ์การชุมนุมทั้งเสื้อเหลือง-เสื้อแดง ทำงานหามรุ่งหามค่ำ เพราะเกิดระเบิดขึ้นรายวัน เช่นเดียวกับที่ผ่านมา ระเบิดหน้ากองสลากเก่า หน้าโรงละครแห่งชาติ และ รพ.พระมงกุฎเกล้า ไม่พ้นฝีมือ ผกก.อุ่ย การขึ้นรอง ผบก.สปพ.ครั้งนี้ เหมาะสมอย่างยิ่ง
...
"พ.ต.อ.นิธิธร จินตกานนท์" รอง ผบก.ทท. โยกเป็น รอง ผบก.สปพ.
รายนี้นอกจากฝีมือจะไม่ธรรมดาแล้ว ที่ผ่านมาก็นำกำลังตำรวจท่องเที่ยว ประสานงานกับตำรวจ 191 ของ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบก.สปพ. ทำผลงานต่อเนื่อง ทั้งการจับกุมแก๊งเด็กแว้น จับกุมขายอาวุธทางเฟซบุ๊กและไปรษณีย์ จับกุมแก๊งลักลอบทำเอกสารราชการปลอม รวมถึงระดมตรวจค้นกวาดล้างยาเสพติด และอาชญากรรมในหลายพื้นที่ ที่สำคัญเป็นเพื่อนซี้ นรต.47 ของ "ผู้การฯ โจ๊ก" คำสั่งงวดนี้เลยโยกข้าม บช. มาทำงานร่วมกันเต็มตัวที่ 191
"พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ" ผกก.ตม.จว.พระนครศรีอยุธยา โยกเป็น ผกก.ตม.จว.จันทบุรี
ห้วงที่ผ่านมา รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติคนนี้ ออกหน้าตอบคำถามสื่อมากกว่า "โฆษก" ตัวจริงเสียอีก การโยกระนาบเดียวกันครั้งนี้อาจไม่ฮือฮามากนัก แม้ จ.พระนครศรีอยุธยา จะเป็นจังหวัดใหญ่ แต่ จ.จันทบุรี ก็ถือว่าไม่น้อยหน้า ในส่วนของ สตม. ถือว่าโอเคทีเดียวกับตำแหน่งนี้
"พ.ต.อ.สุกิจ อรุณฤกษ์ถวิล" ผกก.สภ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี ขึ้นเป็น รอง ผบก.ภ.จว.ชัยนาท
อีกหนึ่งลูกหม้อนครบาล ที่เคยมีผลงานดีเด่นสมัยเป็น ผกก.สน.บางขุนนนท์ แล้วถูกส่งออกไปอยู่ภูธรที่ สภ.พรหมบุรี ช่วงนั้นค่อนข้างฮือฮาอย่างมากว่า คนทำงานมีผลงานระดับโรงพักดีเด่น เหตุไฉนถูกเตะออกนอกหน่วย ล่าสุด มีข่าวจะได้กลับนครบาลเป็น รอง ผบก.น.5 แรงส่งไม่ถึง ได้ขึ้นเพียง รอง ผบก.ภ.จว.ชัยนาท เท่านั้น
...
"พ.ต.ท.กัมพล รัตนประทีป" รอง ผกก.งานศูนย์ควบคุมจราจรวิภาวดีฯ บก.จร. เป็น ผกก.สน.ห้วยขวาง
ชื่อชั้นไม่ธรรมดาสำหรับรายนี้ ที่สำคัญเป็นคนสนิท "ผู้การฯ โจ๊ก" คนที่ว่ากันว่ามีส่วนรู้เห็นการจัดทำโผแต่งตั้งโยกย้ายนายตำรวจในครั้งนี้ ผงาดขึ้น ผกก.สน.ห้วยขวาง หนึ่งในทำเลทองของพื้นที่นครบาล 1 หลังจากที่ผ่านมา 5 เสือ สน.ห้วยขวาง ถูกคำสั่งช่วยราชการและเด้งระนาวจากพิษนาตารีอาบอบนวด ที่ปล่อยให้มีเด็กมาค้าบริการ
คนสุดท้าย "พ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช" ผกก.1 บก.ป. ขึ้นเป็น รอง ผบก.ป.
ผลงานดี มีความโดดเด่นต่อเนื่องในการสางปมคดีดังระดับประเทศหลายต่อหลายคดี และสำหรับ "แบ็กอัพ" แรงหนุนบอกเลยว่า "ไม่ธรรมดา" ความลงตัวสอดคล้องเข้าตากรรมการ งวดนี้ได้สิทธิพิเศษ ขออนุมัติยกเว้นหลักเกณฑ์ขยับเป็น รอง ผบก.ป. เรียกว่าเป็นช่วงเวลา "ขาขึ้น" จริงๆ สำหรับ "รองผู้การฯ ก้อง" นรต.50 ตำรวจหนุ่มไฟแรงครบเครื่องที่สุดในรุ่น บอกตรงๆ ว่ายังมองไม่เห็นความบกพร่อง หรือมีข้อกังขาใดๆ ของการขับเคลื่อนเลื่อนตำแหน่ง มีแต่ความ "เหมาะสม ลงตัว"
...
นอกจากรายชื่อที่น่าสนใจเหล่านี้ หันมาดูตำรวจที่มีถูกจับตาในช่วงที่ผ่านมา อย่าง พ.ต.อ.ลาภ ศรีสำอางค์ รอง ผบก.สปพ. ที่มีชื่ออ้างเป็นชุดเฉพาะกิจ 191 เรียกรับผลประโยชน์เก็บส่วยลิขสิทธิ์ จน ตร.มีคำสั่งเรียกตัวเข้าประจำ ศปก.ตร. ถูกเด้งเข้ากรุเป็น รอง ผบก.กม. ขณะที่ พ.ต.อ.กิตติพงษ์ วิเศษสงวน ผกก.สน.ห้วยขวาง ถูกพิษนาตารีอาบอบนวด เด้งเป็น ผกก.ฝ่ายตรวจสอบพฤติการณ์บุคคล บก.อก.บช.ส.
ส่วนพื้นที่ 3 สน. ที่มีการเด้งเรื่องบ่อนการพนันในพื้นที่ พ.ต.อ.ณรงค์เดช มูลศาสตรสาทร ผกก.สน.พหลโยธิน โยกเป็น ผกก.สน.บางบอน, พ.ต.อ.ศักดิ์สิทธิ์ มีสวัสดิ์ ผกก.สน.ลาดพร้าว โยกเป็น ผกก.สน.หัวหมาก และ พ.ต.อ.ศรายุทธ จุณณวัตต์ ผกก.สน.หัวหมาก เป็น ผกก.สน.โคกคราม
ขณะที่ พ.ต.อ.พิทักษ์ สุทธิกุล ผกก.สน.ชนะสงคราม ที่ถูกจับสถานบริการในพื้นที่และถูกช่วยราชการ ยังเหนียวแน่นได้อยู่ที่เดิม...