คดีสยอง ‘ฆ่าเณร’ ฝังในวัดดังเมืองคอน ผบช.ภ.8 คุมขุดศพเอง แถลงคดีเกิดเมื่อ 5 เดือนก่อน คนร้ายรุมทุบคนตายก่อนลากขึ้นรถแล้วไปสิ้นใจกลางทาง เลยนำกลับมาที่วัดขุดหลุมฝังโบกปูนทับ ก่อนบวชเป็นพระที่วัดเดียวกัน อยู่เฝ้าแต่สุดท้ายความแตก...
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 2 มิ.ย. ที่วัดวังตะวันตก ต.ท่าวัง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ก่อนที่จะขุดหาศพ (สยอง ขุดศพเณรปลื้ม! ถูกพระฆ่าฝังในวัดเมืองคอน พบโบกปูน2ชั้น-เน่าแล้ว) พล.ต.ท.เทศา ศิริวาโท ผบช.ภ.8 พร้อมด้วย พล.ต.ต.วันไชย เอกพรพิชญ์ ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช พ.ต.อ.รังสรรค์ สุขเกื้อ ผกก.กก.สส.ภ. นครศรีธรรมราช พ.ต.ท.วินัย คงประพันธ์ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองนครศรีธรรมราช พ.ต.ต.วันชัย สุวรรณรัตน์ สว.สส.นำกำลังตำรวจชุดสืบสวน กก.สส.ภ.จว.นศ.และตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ได้แถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาร่วมกันรุมฆ่านายศุภโชค เอกเกียรติกุล อายุ 17 ปี หรือสามเณรปลื้ม อยู่วัดวังตะวันตก ต.ท่าวัง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช
...
ทั้งนี้ เหตุเกิดเมื่อเวลา 23.00 น. วันที่ 3 มกราคม 2560 หรือประมาณ 5 เดือนที่ผ่านมา โดยผู้ต้องหา 3 คน ประกอบด้วยนายเด่นชัย ภูมินิยม หรือพระเด่น อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 4/1 หมู่ 3 ต.นาทราย อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช นายสุริยา หรือสามเณรสุริยา อายุ 18 ปี อยู่ ต.ท่าประจะ อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งทั้งสองเป็นพระและสามเณรวัดวังตะวันตก และนางสาวปิยฉัตร อรุณสกุล อายุ 40 ปี หรือบิว ซึ่งเป็นภรรยาของนายเด่นชัย โดยนายเด่นชัย และนายสุริยา ให้การรับสารภาพว่า ได้ร่วมกันใช้ท่อนเหล็กแป๊บและของแข็งทุบตีสามเณรปลื้ม จนสลบเหมือดไป 2 ครั้งแล้วรุมตีซ้ำอีก จนสามเณรกะโหลกศีรษะแตกใบหน้าแตก และมีบาดแผลที่แขนทั้งสองข้าง ตาบวม บาดเจ็บสาหัสแต่ยังไม่ตาย
จากนั้นนายเด่นชัยหรืออดีตพระเด่น และพวกได้ช่วยกันนำร่างสามเณรปลื้มขึ้นรถกระบะเพื่อจะไปวัดแห่งหนึ่งใน อ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช แต่ปรากฏว่าระหว่างทางสามเณรปลื้มได้เสียชีวิต นายเด่นชัยหรือพระเด่นจึงนำร่างสามเณรปลื้มมาเก็บที่กุฏิหลังหนึ่งภายในวัดวังตะวันตก ก่อนช่วยกันรื้อเรือพระลำหนึ่งบริเวณหน้ากุฏิออกแล้วทำการขุดหลุมบริเวณหน้ากุฏิลึกประมาณ 1.5 เมตร ห่อศพสามเณรปลื้มด้วยจีวร ผ้านวมและเสื่อลากศพลงไปฝังในหลุมที่ขุดเตรียมเอาไว้ โดยมีการโบกปูนทับศพชั้นหนึ่งก่อนที่จะใช้ดินฝังศพ แล้วโบกพื้นปูนเป็นลานกว้างยาว 4 คูณ 4 เมตร มีการนำพระพุทธรูปองค์หนึ่งและแจกันธูปเทียนมาวางบนพื้นปูนเพื่ออำพรางเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เป็นเวลานานกว่า 5 เดือน
จนกระทั่งมีญาติของสามเณรปลื้มได้เข้าร้องเรียนกับตำรวจ สภ.เมืองนครศรีธรรมราชและตำรวจ กก.สส.ภ.จว.นครศรีธรรมราช ว่าสามเณรปลื้มหรือนายศุภโชค เอกเกียรติกุล อายุ 17 ปี ได้สูญหายไปจากวัดวังตะวันตกอย่างผิดปกติ ขอให้ตำรวจช่วยสืบสวนคลี่คลายคดีอยู่นานนับเดือนจึงนำไปสู่การจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 3 คนดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขุดศพมีขึ้นในเวลา 10.00 น.วันที่ 2 มิ.ย. พล.ต.ท.เทศา ศิริวาโท ผบช.ภ.8 และเจ้าหน้าที่ได้คุมตัวนายเด่นชัย หรือพระเด่น ภูมินิยม อายุ 36 ปี นายสุริยาหรือสามเณรสุริยา อายุ 18 ปี ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่บริเวณกุฏิหลังหนึ่งของวัดวังตะวันตก ซึ่งเป็นจุดใช้ท่อนเหล็กแป๊บและของแข็งรุมทุบตีสามเณรปลื้มจนตายและชี้จุดขุดหลุมฝังศพสามเณรปลื้ม บริเวณหน้ากุฏิ พบว่ามีการโบกปูนปิดอำพรางไว้อย่างดีตามคำรับสารภาพ จึงให้ผู้ต้องหาทั้งสองจุดธูปเทียนกราบไหว้ขอขมาศพ ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะใช้รถแบ็กโฮขุดแผ่นปูนและขุดดินลึกลงไปประมาณ 1.5 เมตร ใช้เวลาขุดประมาณ 30 นาที ในที่สุดก็พบร่างสามเณรปลื้มถูกฆ่าฝังดินด้วยการโบกปูนทับอีกชั้นหนึ่ง ศพเน่าเปื่อยส่งกลิ่นเหม็นคลุ้งไปทั่วบริเวณวัด สภาพมีบาดแผลถูกตีที่ศีรษะและใบหน้า มีผ้าจีวร ผ้านวม เสื่อห่มศพอย่างดี ซึ่งเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยนครต้องใช้ความพยายามขุดศพอย่างระมัดระวังเป็นเวลากว่า 1 ชั่วโมง กว่าจะนำศพขึ้นมาจากหลุมได้ ก่อนให้แพทย์ชันสูตรพลิกศพในที่เกิดเหตุต่อหน้า พล.ต.ท.เทศา ศิริวาโท ผบช.ภ.8 ซึ่งยืนดูการขุดศพตลอดเวลาจนเสร็จ เกือบ 2 ชั่วโมง
...
พล.ต.ท.เทศา ศิริวาโท ผบช.ภ.8 เผยว่า คดีนี้ตามคำให้การรับสารภาพของผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย คือนายเด่นชัย ภูมินิยม อายุ 36 ปี หรือพระเด่น ซึ่งเพิ่งบวชเป็นพระหลังจากก่อเหตุฆ่าสามเณรปลื้มแล้วไป 20 วัน นายสุริยา หรืออดีตสามเณรสุริยา ได้ให้การรับสารภาพว่าโกรธแค้นที่ผู้ตายขโมยเงินจำนวนหนึ่งของกลุ่มผู้ต้องหาไป จึงเรียกมาสอบถามแต่สามเณรไม่ยอมรับเลยมีการรุมซ้อมจนสลบไป 2 ครั้งและเสียชีวิตในที่สุด ก่อนช่วยกันหามศพขุดหลุมฝังบริเวณหน้ากุฏิภายในวัดแล้วโบกปูนปิดทับเป็นลานกว้างและนำพระพุทธรูปมาวางไว้เพื่ออำพรางเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น หลังจากนั้นกลุ่มผู้ต้องหาก็ยังอาศัยอยู่ภายในวัดเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น จนกระทั่งมีญาติมาร้องเรียนตำรวจให้ช่วยตามหาสามเณรปลื้มนำไปสู่การจับกุมผู้ต้องหาร่วมแก๊งทั้ง 3 ราย และขุดหลุมศพเจอศพสามเณรปลื้มดังกล่าว ส่วน น.ส.ปิยฉัตรหรือบิว อรุณสกุล อายุ 40 ปี เมียนายเด่นชัย แม้จะยังให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา แต่ตำรวจมีพยานหลักฐานมัดตัวแน่นว่าร่วมก่อเหตุฆ่าสามเณรปลื้มด้วย จึงควบคุมตัวดำเนินคดีทั้ง 3 ราย
อย่างไรก็ตาม คดีนี้ สาเหตุอาจไม่ใช่โกรธแค้นเรื่องไปลักทรัพย์ตามที่กลุ่มผู้ต้องหากล่าวอ้าง แต่สามเณรปลื้ม อาจจะไปล่วงรู้เรื่องราวผลประโยชน์ต่างๆ ของกลุ่มผู้ต้องหา ทำให้กลุ่มผู้ต้องหาไม่พอใจ จึงพาไปรุมซ้อมจนตาย ซึ่งทางตำรวจจะสืบสวนสอบสวนเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป.