ครูชำนาญการวัยใกล้เกษียณชาวโคราช เขียนบันทึกเบื่อชีวิต มีพร้อมทุกอย่างแล้ว ขออุทิศชีวิตเป็นครูใหญ่ที่ไร้วิญญาณก่อนผูกคอดับ ด้านภรรยาเผย เปิดเพลงธรณีกรรแสงทุกวัน ไม่คิดว่าจะปลิดชีพ ขณะ ม.ขอนแก่น ไม่รับร่างเพราะฆ่าตัวตาย

เมื่อวันที่ 3 พ.ค. 60 ร.ต.อ.กุศล แก้วสารพัดนึก รอง สว.สส.สภ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา พร้อมหน่วยกู้ภัยปริสุทฺโธ (ฮุก 31) ตรวจสอบเหตุคนผูกคอตายที่บ้านหลังหนึ่งใน ต.ด่านขุนทด ที่ห้องนอนชั้นล่างตรงประตูกระจกหน้าห้อง มีกระดาษเขียนข้อความแปะไว้ว่า “ตายแล้ว ตาย ตาย ตาย แจ้งด่วน” เมื่อเปิดประตูเข้าไปพบว่าห้องดังกล่าวเป็นห้องนอน พบร่างของ นายเอ (นามสมมติ) อายุ 59 ปี แต่งชุดข้าราชการสีกากี ใช้เชือกผูกคอกับราวผ้าม่าน จากนั้นนำร่างลงมาส่งชันสูตรที่ รพ.ด่านขุนทด ตรวจสอบภายในห้องไม่พบร่องรอยการต่อสู้ บนโต๊ะทำงานมีสุราเหลือไม่ถึงครึ่งขวด มีข้อความข้างขวดเขียนว่า “ขอให้เป็นขวดสุดท้าย” พร้อมลงลายเซ็นผู้ตาย นอกจากนี้ พบสมุดบันทึกหน้าแรกเขียนว่า “สมุดบันทึกชีวิตหลังความตาย” ลงลายเซ็นระบุวันที่ 2 พ.ค. 60 เวลา 15.30 น. ด้านในเขียนว่า “ชีวิตหลังความตายคือตำแหน่งอาจารย์ใหญ่ ผู้ที่ไร้ชีวิต อุทิศร่างกายเพื่อให้การศึกษาวงการแพทย์ไทยที่มหาวิทยาลัยขอนแก่น” จากนั้นเป็นบทกลอนธรรมะเตือนใจเกี่ยวกับความตายมากมายหลายบท และสุดท้ายเขียนไว้ว่า “ลาก่อนทุกคน ไม่ต้องเป็นห่วง ขออโหสิกรรมให้แก่ข้าด้วย” ลงลายเซ็น ระบุวันที่ 3 พ.ค. 60 เวลา 04.00 น.

...

ทั้งนี้ มีกระดาษอีกแผ่นสอดไว้ในสมุดบันทึก เขียนว่า “เบื่อชีวิตที่ต้องวนเวียนแบบนี้ทุกวัน และไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรเลย มันน่าจะพอแล้ว ทุกอย่างมีครบ เมีย, บ้าน, ลูก, หลาน, ตำแหน่งการงาน, รถยนต์ สมบูรณ์ทุกอย่าง ชีวิตนี้ก็พอแล้ว ขอไปทำประโยชน์ชาติต่อไป สบายดีทุกคน” ลงลายเซ็น 14 เม.ย. 60 เวลา 08.00 น. และยังมีสำเนาหนังสืออุทิศร่างกายให้มหาวิทยาลัยขอนแก่น เมื่อกลางเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา โดยระบุว่ามีโรคความดันโลหิตสูงและไตเรื้อรัง

ด้าน นางบี (นามสมมติ) อายุ 58 ปี ภรรยาผู้ตาย รับราชการครูเช่นเดียวกัน กล่าวว่า ผู้ตายมีตำแหน่งเป็นครูชำนาญการ ที่ผ่านมา มักจะบ่นเบื่อชีวิต ชอบเก็บตัวแต่ในห้องนอน ช่วงหลังมักจะเปิดเพลงธรณีกรรแสงฟังทุกวัน แต่ก็ไม่คิดว่าจะมาฆ่าตัวตาย และมหาวิทยาลัยขอนแก่น ปฏิเสธที่จะรับร่างผู้ตาย เนื่องจากเป็นกรณีฆ่าตัวตาย จึงจะจัดการตามประเพณีต่อไป.