บิ๊กหวาน พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จตช. ภาวนาไม่เป็น 1 ใน 40 ถูกอเมริกาขึ้นแบล็คลิสต์ห้ามเข้าประเทศ รวมถึงไม่รู้รายละเอียดในสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะมีใครบ้าง พร้อมยอมรับยังมีต่างชาติส่วนใหญ่สมัครใจข้ามไปทำงานประเทศเพื่อนบ้านผ่านทางแม่สอด ล่าสุดส่งกลับแก๊งคอลฯ อีกกว่า 2 พันราย พบบางประเทศติดปัญหาการขนส่งหรือโลจิสติกส์
เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2568 พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จตช. เปิดเผยก่อนเป็นประธานประชุมเปิดศูนย์ประสานงานป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีและค้ามนุษย์ว่า วันนี้ (26 มี.ค.) ได้มีการประชุมร่วมกับตัวแทนทูตฝ่ายตำรวจจากประเทศต่างๆ รวมทั้งสหรัฐอเมริกาและ สปป.ลาว เพื่อเน้นย้ำและทำความเข้าใจเกี่ยวกับสถานการณ์แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลังจากที่ไทยได้ดำเนินมาตรการอย่างเข้มข้นในเรื่องของการตัดน้ำ ตัดไฟ ตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ตนานกว่า 2 เดือน โดยเฉพาะฝั่งชายแดนแม่สอด เมืองเมียวดี ประเทศเมียนมา ขณะนี้ทราบว่าหลังจากเปิดปฏิบัติการดังกล่าวฯ สามารถควบคุมตัวแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้กว่า 8,000 ราย ก่อนส่งกลับไปประเทศต่างๆ แล้วกว่า 5,000 ราย เหลืออีกกว่า 2,000 ราย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างรอประเทศต่างๆ ประสานนำตัวกลับประเทศต้นทาง โดยยอมรับว่ามีปัญหาเรื่องการขนส่งหรือโลจิสติกส์และงบประมาณ เช่น ประเทศในทวีปแอฟริกาซึ่งไม่มีสถานทูตในประเทศไทย ทำให้ต้องมีการประสานงานกันหลายฝ่าย
จตช.กล่าวว่ายังมีข้อมูลว่ามีชาวต่างชาติเข้ามาไทยไปยังแม่สอด จังหวัดตาก เพื่อข้ามไปฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งยังไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าเข้าไปทำงานเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์หรือทำงานประเภทอื่นๆ อีกทั้งยังมีชาวต่างชาติบางส่วนที่ลักลอบเดินทางจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาในประเทศไทย เพื่อหลบหนีเพื่อไปยังประเทศที่สามหลังมีการปราบปรามอย่างหนัก รวมถึงยังพบปัญหาเรื่องการขนย้ายอุปกรณ์ที่ลักลอบผ่านเข้าไทย เพื่อนำเข้าไปยังประเทศกัมพูชา แต่ทางเจ้าหน้าที่ทหารและฝ่ายปกครองสามารถจับกุมตัวได้ เช่น Star Link หรือตัวส่งสัญญาณอินเทอร์เน็ต ซึ่งสามารถจับกุมได้กว่า 150 เครื่อง บริเวณใกล้ชายแดน
...

จตช.ยืนยันว่าที่ผ่านมาทางศูนย์ต่อต้านการค้ามนุษย์ฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีการประชาสัมพันธ์ไปยังชาวต่างชาติ แต่ยังพบว่าชาวต่างชาติที่เดินทางมาไทยส่วนใหญ่สมัครใจที่จะไปทำงานประเทศเพื่อนบ้านผ่านทางแม่สอด จังหวัดตาก โดยจากข้อมูลยังไม่พบว่าชาวต่างชาติถูกล่อลวงหรือบังคับจากสนามบิน โดยเฉพาะกรณีของชาวเอธิโอเปียที่อ้างว่าถูกคลุมหัวจากสนามบินฯ มอมยาและบังคับข้ามไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งจากการตรวจสอบข้อมูลยังไม่พบข้อเท็จจริงแต่อย่างใด เพราะการกระทำดังกล่าวเกิดขึ้นได้ยาก เนื่องจากมีเจ้าหน้าที่ประจำด่านคอยตรวจสอบตลอดทาง
จเรตำรวจแห่งชาติกล่าวว่าในการประชุมวันนี้จะมีการสอบถามไปยังประเทศต่างๆ เกี่ยวกับมาตรการของไทยที่ดำเนินการทำให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ลดลงหรือไม่ หรือมีสถิติอย่างไร แต่จากการประสานข้อมูลกับทางการจีนอย่างไม่เป็นทางการ ระบุว่าสถิติแก๊งคอลเซ็นเตอร์ลดลงแต่ไม่ได้ให้รายละเอียดในการประชุมครั้งนี้มีเจ้าหน้าที่จากสหรัฐอเมริกาและสปป.ลาวเข้าร่วมประชุมด้วย เพื่อหารือและสังเกตการณ์เกี่ยวกับการจัดอันดับเทียร์และปัญหาการค้ามนุษย์ ซึ่งไม่ได้มีการพูดถึงกรณีที่สหรัฐอเมริกาขึ้นแบล็คลิสต์ข้าราชการไทยกว่า 40 คน โดยส่วนตัวไม่ทราบเหมือนกันว่าตนเองเป็น 1 ใน 40 คนที่ถูกขึ้นแบล็คลิสต์หรือไม่ แต่ขอภาวนาว่าไม่ให้เป็นแบบนั้น ส่วนในสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะมีใครบ้างนั้น ตนเองไม่ทราบ รวมถึงไม่ทราบรายละเอียดรายชื่อเจ้าหน้าที่ข้าราชการไทยที่ถูกขึ้นแบล็คลิสต์ สำหรับประเทศเมียนมาและกัมพูชาที่เป็นปัญหาหนักเกี่ยวกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์วันนี้ไม่ได้ส่งตัวแทนเข้าร่วมประชุมเนื่องจากติดธุระ แต่ยืนยันว่าไม่ใช่เป็นการปฏิเสธความร่วมมือกับทางการไทยแต่อย่างใด