เจ้าหน้าที่ขุดจนพบศพ "ไกด์" หนุ่มหายตัวปริศนา 3 เดือน ตำรวจคุมตัวแฟนหนุ่ม-พี่ LGBTQ สารภาพลงมือ พาชี้จุดฝังในป่าอีสานเขียว
จากกรณี นายจักรินทร์ เจริญผา หรือ ไกด์ อายุ 28 ปี ซึ่งมีการแจ้งตามหาคนหายตั้งแต่วันที่ 12 ธ.ค. 67 ที่ผ่านมา ต่อมาเจ้าหน้าที่สืบทราบว่า ก่อนที่จะหายตัวไปนั้น นายจักรินทร์ ได้มีปากเสียงกับ นายณัฐวุฒิ มีมั่ง อายุ 36 ปี ซึ่งเป็นแฟนหนุ่มของ นายณรงค์ศักดิ์ เจริญผา อายุ 33 ปี LGBTQ พี่แท้ๆ ของนายจักรินทร์
กระทั่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ป. พร้อมด้วย พ.ต.อ.กานตภณ วรรณา ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรคูคต, พ.ต.ท.นิเวศน์ นิลวดี รอง ผกก.สส.สภ.คูคต, พ.ต.ท.เสฎฐวุฒิ คำนามะ สว.สส.สภ.คูคต และกำลังปฏิบัติชุดสืบสวน สภ.คูคต ได้ร่วมกันจับกุมตัว นายณัฐวุฒิ มีมั่ง อายุ 36 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดนครราชสีมา ที่ 104/2568 ลงวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2568 ข้อหา “พยายามฆ่าผู้อื่น, ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่น หรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย, พาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยเปิดเผย หรือโดยไม่มีเหตุอันควร, ยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุในเมือง หมู่บ้าน หรือชุมชน” และ นายพนิตพิชา เจริญผา อายุ 35 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลแขวงนครราชสีมา ที่ จ.26/2568 ลงวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2568 ในข้อหา “ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่น หรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย”

...
โดยสามารถจับกุมได้ที่บริเวณหน้าบ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ ต.ลาดสวาย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี เบื้องต้นนายณัฐวุฒิ ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา และว่านำร่างผู้เสียชีวิตไปฝังดินไว้ในป่าอีสานเขียว ของกองทัพภาคที่ 2 พื้นที่ ต.หนองบัวศาลา อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา ส่วนนายพนิตพิชา ให้การปฏิเสธ ก่อนนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย มาทำบันทึกที่ สภ.คูคต พร้อมทั้งได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมนำตัวส่ง พงส. สภ.เมืองนครราชสีมา เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. วันนี้ (26 มี.ค. 68) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครราชสีมา ได้นำตัวผู้ต้องหามาชี้จุดที่ฝังร่างผู้เสียชีวิตไว้ พร้อมกับประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ตำรวจภูธรภาค 3 และอาสากู้ภัยสว่างเมตตานครราชสีมา ร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบจุดที่ฝังร่างเอาไว้ จนพบร่างของนายจักรินทร์
นางสาวธัญญามาศ ขอบ่มกลาง ญาติผู้ตาย เผยว่า นายจักรินทร์หายตัวไปตั้งแต่เมื่อช่วงกลางเดือนธันวาคม ปี 67 ที่ผ่านมา หลังจากที่ทะเลาะกับ นายณัฐวุฒิ คนก่อเหตุ เรื่องรถจักรยานยนต์ในบ้านเช่าแห่งหนึ่ง วันเกิดเหตุทั้งสองคนอยู่ด้วยกัน และได้หลาน อายุ 13 ปี อยู่ด้วย ซึ่งหลานได้ยินเสียงปืน 2 นัด ก่อนที่หลานจะมาบอกญาติๆ ว่า นายจักรินทร์ โดนยิง และตั้งแต่นั้นก็ไม่มีใครเห็น นายจักรินทร์ อีกเลย
เบื้องต้น ทางญาติของผู้เสียชีวิต คาดว่า สาเหตุที่ลงมือก่อเหตุนั้น มาจากที่ทะเลาะกันเรื่องล้อแม็กรถจักรยานยนต์

นายธนบรรณ เจริญผา อายุ 59 ปี พ่อของ นายจักรินทร์ เปิดเผยว่า ผู้ตายคือลูกชายคนเล็ก ได้หายออกจากบ้านไปตั้งแต่ช่วงเดือนธันวาคม ปี 67 วันเกิดเหตุตนเองรู้ว่าลูกคนโตซึ่งเป็นสาวประเภทสองกับแฟนหนุ่ม และลูกชายคนเล็กมีปัญหาทะเลาะกันเรื่องรถจักรยานยนต์ และยังรู้อีกว่าลูกเขยได้ใช้อาวุธปืนยิงลูกชาย แต่ตนเองไม่รู้ว่าลูกชายเสียชีวิตหรือว่าบาดเจ็บ ตนพยายามติดต่อ ตามหา แต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้ หลังจากนั้นลูกเขยและลูกชายที่เป็น LGBTQ ได้หายตัวไป ที่ผ่านมาทั้งสองก็ไม่เคยมีปัญหาอะไรกัน แต่ลูกชายคนเล็กที่เสียชีวิตค่อนข้างที่จะเกเร คาดว่าวันที่เกิดเหตุคงมีปากเสียงทะเลาะกันหนักจึงทำให้ลูกเขยก่อเหตุใช้ปืนยิงลูกชายเสียชีวิต ตนเองรู้สึกเสียใจมากว่าทำไมพี่น้องถึงฆ่ากันได้
ต่อมา พล.ต.ต.ไพโรจน์ ขุนหมื่น ผบก.ภ.จ.นครราชสีมา ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ อยู่ระหว่างรอเจ้าหน้าที่นำร่างผู้เสียชีวิตขึ้นมาพิสูจน์ตามขั้นตอนต่อไป

จากนั้นเวลา 12.00 น. พล.ต.ท.วัฒนา ยี่จีน ผบช.ภ.3 พร้อมด้วยผู้บัญชาการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรนครราชสีมา เจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 50 นาย คุมตัวนายณัฐวุฒิ และนายพนิตพิชา มาชี้จุดทำแผนประกอบคำรับสารภาพ บริเวณจุดที่ขุดหลุมฝังร่างนายณัฐวุฒิ โดยนำนายณัฐวุฒิลงมาทำแผนเพียงคนเดียว ท่ามกลางชาวบ้านและญาติของผู้เสียชีวิตที่มารอดูการทำแผน
...
โดยนายณัฐวุฒิได้จุดธูปก้มลงกราบขอขมาศพ และไหว้ขอโทษพ่อของผู้เสียชีวิต ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้คุมตัวกลับขึ้นไปบนรถคุมขัง ระหว่างนั้นผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามนายณัฐวุฒิถึงสาเหตุที่ลงมือก่อเหตุในครั้งนี้ แต่นายณัฐวุฒิไม่ได้เอ่ยปากแต่อย่างใด ซึ่งญาติผู้เสียชีวิตก็ได้ตะโกนถามว่า "ฆ่าพี่ชายทำไม" ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะนำตัวผู้ก่อเหตุทั้ง 2 รายออกจากพื้นที่ทันที