เปิดคลิปรถปาเจโร “นิตยา – ฤทธิกร” ผู้ต้องหาคดีไฟไหม้เงิน 10 ล้านทิพย์ ขับผ่านจุดแดนถาวรบ้านหาดเล็ก จ.ตราด ข้ามไปเกาะกง ก่อนโดนหมายจับ พบรถนำขบวน คันแรกเป็นรถอดีตรองนายก อบจ.ตราด เจ้าตัวปัดไม่เกี่ยวข้อง ด้าน ตม.ตราด แจงขออนุญาตถูกต้อง ตรวจทุกคันก่อนผ่านด่าน ขณะที่ ผบ.ฉก.นย.ตราด ไม่ขอออกความเห็น เผยปม “วีไอพี”
จากกรณีเกิดเหตุบ้านพักกรมชลประทาน ต.ท่าทราย อ.เมืองนนทบุรี เมื่อวันที่ 23 ก.พ.68 หลังเกิดเหตุ น.ส.นิตยา ตรีสุคนธ์ และนายฤทธิกร แสงสมพร สองสามีภรรยา ได้เข้าแจ้งความเงินหาย 10 ล้านบาท ขณะเกิดเหตุไฟไหม้ แต่ปรากฏว่าตำรวจได้ตรวจสอบพบว่าเป็นการวางเพลิงและแจ้งความเท็จ ได้ออกหมายจับทั้ง 2 คน ก่อนที่จะขับรถยนต์ มิตซูบิชิ ปาเจโร หมายเลขทะเบียน ฆฐ 2492 กทม. มายังจังหวัดตราด หลบหนีออกนอกประเทศ ผ่านช่องทางธรรมชาติ ที่บ้านหาดเล็ก ต.หาดเล็ก อ.คลองใหญ่ จ.ตราด ข้ามไปยังประเทศกัมพูชา ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : สองผัวเมีย ไฟไหม้เงิน 10 ล้านทิพย์ เผ่นหนีเขมร ตร.แจงออกหมายจับช้า)
เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2568 ที่ จ.ตราด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุดมีการเปิดเผยคลิปผ่านช่องทางออนไลน์ พบว่า เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2568 เวลา 10.42 น. กล้องวงจรปิดบริเวณชายแดนถาวรบ้านหาดเล็ก บันทึกภาพรถยนต์ต้องสงสัย 3 คัน คันที่ 1 เป็นรถยนต์กระบะ ยี่ห้อฟอร์ด 4 ประตู คันที่ 2 เป็นรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อนิสสัน และคันที่ 3 มิตซูบิชิ ปาเจโร หมายเลขทะเบียน ฆฐ 2492 กทม.
โดยพฤติกรรม (คลิปที่ 1) พบว่า รถคันที่ 1 มีนายเจริญ ชลาลัย อดีตรองนายก อบจ.ตราด และอดีตผู้สมัคร นายก อบจ.ตราด ครั้งที่ผ่านมา นั่งอยู่ในรถ ก่อนจะเดินมาคุยกับรถคันที่ 2 ระหว่างที่พูดคุยกันอยู่นั้น รถคันที่ 3 ขับรถมาถึง จอดต่อท้ายรถคันที่ 2 จากนั้นนายเจริญ ได้เดินกลับไปที่รถ สักพักคนขับคันที่ 3 เดินมาที่รถคันที่ 2 มาหาผู้โดยสารที่อยู่ด้านหลัง พูดคุยกันสักพัก คนขับคันที่ 3 ก็เดินกลับไปขึ้นรถเหมือนเดิม จากนั้นผู้โดยสารคันที่ 3 เดินลงมาจากรถ
...

ขณะที่กล้องมุม บริเวณประตูทางเข้าชายแดน จุดทำการทหารที่หน้าประตูชายแดน นายเจริญ เดินเข้าไปพูดคุย โดยใช้เวลาประมาณ 2-3 นาที ก่อนจะกลับออกมา และในเวลา 10.59 น. รถคันที่ 1 ขับนำรถคันที่ 2 และ 3 ผ่านด่านข้ามแดนไปยังจังหวัดเกาะกง ประเทศกัมพูชา

ผู้สื่อข่าวโทรศัพท์สอบถามไปยัง นายเจริญ ชลาลัย ถึงข้อมูลที่ปรากฏและมีพาดพิง บอกว่า เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องจริง และไม่เกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น และตำรวจก็ไม่ได้เรียกตัวสอบปากคำในเรื่องนี้แต่อย่างใด
ขณะที่ พ.ต.อ.กิตติพรธร เป้าเปี่ยมทรัพย์ ผกก.ตม.ตราด ให้ข้อมูลกับสื่อมวลชนว่า นายเจริญ ชลาลัย พร้อมพวก 4 คน รถยนต์ 3 คัน ขออนุญาตออกจากประเทศอย่างถูกต้อง โดยคันแรกนายเจริญ ชลาลัย เดินทางไปพร้อมกับว่าที่นายก อบต.คลองใหญ่ ส่วนคันที่ 2 รถเก๋ง ขับออกไปเพียงคนเดียว เป็นลูกน้องว่าที่นายก อบต.คลองใหญ่ และคันที่ 3 เป็นรถปาเจโร ออกไปเพียงคนเดียว คนขับเป็นผู้หญิง เป็นลูกน้องนายเจริญ ทั้ง 3 คัน ข้ามแดนไปบ่อนกาสิโน ซึ่งก่อนที่รถทั้งหมดจะผ่านด่าน เจ้าหน้าที่ได้ตรวจรถทุกคัน ไม่พบผู้ต้องสงสัยทั้ง 2 คน ตามที่เป็นข่าว ส่วนตัวคาดว่า ทั้ง 2 คน อาจลงจากรถไปก่อนหน้านี้แล้ว ส่วนเวลากลับเข้าประเทศไทยของรถทั้ง 3 คัน คือเวลาประมาณ 16.00 น.
จากนั้นผู้สื่อข่าวสอบถามไปยัง น.อ.ภริศวร์ วงษ์เพ็ญศรี ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด (ผบ.ฉก.นย.ตราด) ทราบว่า โดยทั่วไปประชาชนหรือนักท่องเที่ยวต้องเข้าออกตามกระบวนการของกฎหมายอยู่แล้ว แต่หากเป็นบุคคลวีไอพี เช่น ผู้ว่าราชการ หรือส่วนราชการ ที่ต้องไปราชการพบปะกับหน่วยราชการในประเทศกัมพูชา หรือผู้ป่วย ที่ต้องเข้าออกมารักษาในประเทศไทย จะต้องผ่านการประสานงานจากหน่วยประสานงานชายแดน ไทย-กัมพูชา เท่านั้น เพื่ออนุญาตเข้า-ออก ผ่านชายแดนโดยไม่ต้องใช้พาสปอร์ต ส่วนเรื่องคดีนั้นไม่ขอออกความเห็น