บช.น.พบเบาะแสมือยิง “นักศึกษาอุเทนถวาย” มากัน 2 คน สวมหมวกกันน็อก สวมเสื้อคลุม ปิดบังอำพรางรูปพรรณสัณฐานอย่างมิดชิด เชื่อน่าจะยังอยู่ในกทม. แต่ยังไม่ฟันธง ศึกสถาบันหรือเรื่องส่วนตัว เตรียมปรับมาตรการตรวจค้นบุคคลที่อาจจะมีลักษณะต้องสงสัย พวกสวมหมวกกันน็อกเต็มใบ ซ้อนจยย. 2 คน ขณะที่ผู้เป็นแม่ยอมรับลูกชายชื่นชอบการซื้อและสะสมอาวุธมีด

กรณีมีเหตุคนร้ายยิงนายนราวิทย์ นักศึกษาชั้นปี 1 สาขาวิศวกรรมก่อสร้าง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย บาดเจ็บสาหัส บนถนนพญาไทฝั่งตรงข้ามศูนย์การค้ามาบุญครอง พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผบช.น.พร้อมด้วยตำรวจสืบนครบาลและฝ่ายสืบสวนที่เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุตั้งแต่เมื่อคืน

น.1 เรียกประชุมทีมสืบเร่งล่าคนร้ายยิง นศ.อุเทนฯ

ความคืบหน้าเมื่อ 10.00 น. วันที่ 30 มกราคม 2568 ที่ สน.ปทุมวัน พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น.เดินทางมาประชุมติดตามความคืบหน้าของคดีนี้ร่วมกับ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผบช.น. พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย รรท.ผบก.สส.บช.น. เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนที่รับผิดชอบ

พล.ต.ท.สยาม เปิดเผยว่า ขณะนี้ตัวผู้บาดเจ็บมีอาการปลอดภัยแล้ว อยู่ในระหว่างการพักฟื้น ทั้งนี้แพทย์รายงานว่า ผู้บาดเจ็บถูกยิงเข้าที่บริเวณด้านหลังทะลุหน้าอก 2 นัด ส่วนความคืบหน้าคดี ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมาได้สอบปากคำเพื่อนของผู้บาดเจ็บที่อยู่ในเหตุการณ์แล้วและได้รายละเอียดพฤติการณ์ทางคดีมาพอสมควร แต่ในส่วนของผู้ก่อเหตุที่จะเป็นคู่อริต่างสถาบันและเกี่ยวข้องกับวันคล้ายวันสถาปนาของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย หรือ Blue Day หรือไม่ รายละเอียดตรงนี้ขอสงวนไว้ก่อน เนื่องจากเป็นรายละเอียดในการสืบสวน แต่อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ครั้งนี้ไม่มีประชาชนถูกลูกหลงแต่อย่างใด

...

ผู้สื่อข่าวสอบถามถึงแนวทางการรักษาความปลอดภัยในวัน Blue Day ที่จะถึงในวันที่ 1 ก.พ.นี้ พล.ต.ท.สยาม กล่าวว่า วันนี้นอกจากมาพูดคุยเรื่องความคืบหน้าคดีแล้ว จะได้ประชุมเพื่อกำชับในเรื่องแนวทางการรักษาความปลอดภัยในวัน Blue Day ที่จะถึงนี้ด้วย เน้นการเฝ้าระวังไม่ให้เกิดเหตุการณ์กระทบกันระหว่างสถาบัน รวมถึงการทบทวนมาตรการความปลอดภัย เนื่องจากสถานศึกษาอยู่ใกล้กับสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศ พร้อมทั้งสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยว ถือเป็นนโยบายที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติกำชับมา ควบคู่ไปกับการสั่งการให้เร่งรัดติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็ว

สำหรับข้อมูลของนักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย ที่ถูกยิงได้รับบาดเจ็บเมื่อคืนนี้ คือนายนราวิทย์ เป็นนักศึกษาชั้นปี 1 สาขาวิศวกรรมก่อสร้าง ถูกยิงเข้าที่บริเวณด้านหลังทะลุหน้าอก 2 นัด จากกระสุนปืนที่กลุ่มผู้ก่อเหตุได้ยิงไปจำนวน 5 นัด ขณะนี้อาการปลอดภัย อยู่ในระหว่างการพักฟื้นรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจ

ส่วนบรรยากาศบริเวณที่เกิดเหตุเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พบว่ามีการจัดเจ้าหน้าที่ตำรวจชุด คฝ. และตำรวจ สน.ปทุมวัน เฝ้ารักษาความปลอดภัยบริเวณด้านหน้าและด้านในของอุเทนถวาย ซึ่งพบว่ามีนักศึกษาเพียงบางส่วนที่เดินทางมาที่มหาวิทยาลัย ส่วนบริเวณจุดเกิดเหตุซึ่งอยู่ใกล้สะพานลอยเชื่อมศูนย์การค้ามาบุญครองติดกับป้ายรถเมล์ ยังพบร่องรอยของคราบเลือดของผู้บาดเจ็บปรากฏอยู่บนพื้น

ไม่ฟันธงศึกสถาบัน-เรื่องส่วนตัว

ต่อมาเมื่อเวลา 12.30 น. ที่ สน.ปทุมวัน พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผบช.น.กล่าวภายหลังการประชุมเร่งรัดคดี ว่า จากการสืบสวนคาดว่ามีผู้ต้องสงสัยที่ก่อเหตุ 2 ราย แต่ยังพิสูจน์ทราบได้ไม่แน่ชัดว่าเป็นใคร ขี่รถจักรยานยนต์ติดแผ่นป้ายทะเบียนมาก่อเหตุ แต่ยังไม่สามารถพิสูจน์ทราบได้ว่าเป็นป้ายทะเบียนปลอมหรือไม่ พบการปิดบังอำพรางรูปพรรณสัณฐาน ทั้งการสวมหมวกกันน็อก สวมเสื้อคลุม รองเท้าผ้าใบและกางเกงขายาวอย่างมิดชิด ส่วนเรื่องของอาวุธปืน จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบเศษกระสุนขนาด .38 แต่ไม่พบปลอกกระสุนในที่เกิดเหตุ คาดว่าคนร้ายน่าจะใช้ปืนลูกโม่ก่อเหตุ

ทั้งนี้เชื่อได้ว่า ผู้ก่อเหตุมีแรงจูงใจที่หวังผลให้ถึงแก่ชีวิต แต่สาเหตุของการก่อเหตุครั้งนี้จะมาจากเรื่องของสถาบันหรือเรื่องส่วนตัว ขอให้อยู่ในระหว่างการสืบสวนสอบสวนขยายผลก่อน ยังไม่สามารถให้ข้อสรุปในเรื่องนี้ได้ แต่ตำรวจจะยังไม่ตัดประเด็นใดประเด็นหนึ่งออก

อย่างไรก็ตาม แผนประทุษกรรมของผู้ก่อเหตุมีความคล้ายเคียงกับเหตุการณ์และช่วงเวลาที่เคยเกิดขึ้นในอดีต โดยเฉพาะในช่วงระยะเวลาวันจัดงานสถาปนามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย หรือวัน Blue Day เชื่อว่าผู้ก่อเหตุเตรียมการวางแผนการก่อเหตุ การหาเป้าหมาย และเส้นทางการหลบหนีเป็นอย่างดี เบื้องต้นพบว่าผู้ก่อเหตุได้พยายามหลบหนีอย่างสุดชีวิต ดังนั้นหลังจากนี้ ตำรวจจะสืบสวนสอบสวนขยายผลและรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อสามารถพิสูจน์ทราบผู้ก่อเหตุทั้ง 2 รายได้อย่างแน่ชัด เชื่อว่า ผู้ก่อเหตุน่าจะยังอยู่ในกทม.

ปรับมาตรการตรวจค้นบุคคลต้องสงสัย

พล.ต.ต.นพศิลป์ เผยอีกว่า นอกจากนี้ การประชุมวันนี้ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลเน้นย้ำเรื่องของมาตรการการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ เนื่องจากมีความห่วงใยประชาชนจากเหตุการณ์เมื่อคืนที่ผ่านมา ถึงแม้ว่าจะไม่มีประชาชนถูกลูกหลง เป็นเพียงนักศึกษาที่ถูกยิง แต่ก็มีโอกาสที่ประชาชนจะถูกลูกหลงซ้ำรอยเหมือนเหตุการณ์ที่คลองเตยได้ เพราะในพื้นที่อุเทนถวายอยู่ติดกับสถานที่ท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก จึงได้ให้ตำรวจฝ่ายปราบปราม ฝ่ายสืบสวนและตำรวจกองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน ปรับมาตรการในการดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยว โดยได้มีการจัดกำลังเพิ่มมากขึ้นในพื้นที่เสี่ยงทั้ง 2 สถาบันที่อาจมีปัญหากัน รวมทั้งการอำนวยความสะดวกด้านการจราจรและเพิ่มจุดตรวจสกัดจับ ตรวจค้นบุคคลที่อาจจะมีลักษณะต้องสงสัย จำพวกบุคคลที่สวมหมวกกันน็อกเต็มใบ ซ้อนรถจักรยานยนต์ 2 คน หรือพบพิรุธที่แผ่นป้ายทะเบียนรถ เช่น ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนรถหรือมีร่องรอยที่เชื่อว่าเป็นป้ายทะเบียนปลอม

...

พบเบาะแสมือยิง “นักศึกษาอุเทนถวาย” ตำรวจยังไม่ฟันธงศึกสถาบัน หรือเรื่องส่วนตัว

ที่ผ่านมา ตำรวจได้จัดเตรียมแผนการเพื่อป้องกันและเฝ้าระวังไม่ให้เกิดเหตุการณ์ในช่วงวัน Blue Day มาโดยตลอด แม้ว่าตอนนี้จะยังไม่พบการข่าวที่น่าสงสัยว่าจะมีการก่อเหตุร้ายแรงขึ้นอีก แต่กลุ่มผู้ก่อเหตุยังสามารถอาศัยจังหวะในการฉวยโอกาสก่อเหตุได้ ดังนั้น วันนี้จึงได้ให้ตำรวจได้ปรับแผนการเพื่อเฝ้าระวังป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยในช่วงวัน Blue Day เพื่อเป็นการเพิ่มความปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชนและสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยว

ต่อมาเมื่อเวลา 13.00 น. น.ส.ธารารัตน์ อายุ 42 ปี แม่นายนราวิทย์ นักศึกษาที่ถูกยิงบาดเจ็บ เดินทางมาที่สน.ปทุมวัน เพื่อมาให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวน

น.ส.ธารารัตน์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ลูกชายปลอดภัยแล้ว แต่ตนยังไม่ทราบรายละเอียดของอาการว่าน้องเป็นอย่างไร ตอนนี้พักฟื้นตัวอยู่ในห้อง ICU ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ เท่าที่ทราบคือน้องเพิ่งเสร็จกิจกรรมกับเพื่อนที่มหาวิทยาลัยและกำลังออกจากมหาวิทยาลัยเพื่อกลับบ้านกับเพื่อน แต่ไม่ทราบจำนวนว่าเดินกลับกันกี่คน ระหว่างที่เดินมาถึงจุดเกิดเหตุ มีรถจักรยานยนต์ขี่มา แต่ไม่แน่ใจว่ากี่คัน แล้วก็ลงมือก่อเหตุยิงทันที

...

ปกติแล้ว ลูกชายพักอาศัยอยู่กับป้าที่ จ.สมุทรปราการ ส่วนจะกลับบ้านช้าหรือเร็ว แล้วแต่ตามสะดวก เพียงแต่ว่าช่วงนี้มีกิจกรรมที่มหาวิทยาลัยจึงกลับบ้านดึก เวลากลับบ้านมักจะเดินกลับกับเพื่อนอยู่แล้ว ตัวลูกเองไม่เคยมีปัญหาหรือมีอริอะไรกับใครและไม่เคยเล่าให้ฟังว่าคนรอบข้างของลูกที่มหาวิทยาลัยมีปัญหาทะเลาะวิวาทกับใคร พร้อมยืนยันว่ารุ่นพี่ที่มหาวิทยาลัยดูแลลูกเป็นอย่างดี

แม่ยอมรับลูกชายชอบสะสมอาวุธมีด

น.ส.ธารารัตน์ เผยอีกว่า ลูกชายมีความตั้งใจที่จะเรียนที่สถาบันแห่งนี้ เพราะด้วยความใฝ่ฝันอยากทำงานด้านโลจิสติกส์ เมื่อเป็นความใฝ่ฝันของลูก ตนก็ไม่ขัด แต่ก็เตือนลูกตั้งแต่วันแรกที่สมัครเรียนว่าให้ระมัดระวังตัวเองเมื่อมาเรียนที่นี่ โดยเฉพาะอย่าพยายามอยู่ในช่วงเวลากลางคืน เพราะค่อนข้างอันตราย หลังจากนี้ตนจะเตือนลูกให้ระมัดระวังให้มากขึ้น แต่ลูกจะเรียนต่อที่นี่หรือไม่แล้วแต่ลูก และตนจะไม่บังคับให้ลูกออกจากที่นี่ เพราะไม่มั่นใจว่า ที่ลูกถูกยิงอาจจะเกี่ยวข้องกับสถาบันหรือไม่ เนื่องจากยังไม่รู้ว่าผู้ก่อเหตุเป็นใครและเป็นเรื่องของสถาบันจริงหรือไม่ มองว่ายังไม่สามารถโทษใครได้

อย่างไรก็ตาม ตนยอมรับว่า ลูกชายชื่นชอบการซื้อและสะสมอาวุธมีด ตนไม่เคยห้ามเรื่องนี้เพราะลูกซื้อมาเพื่อสะสมเป็นการส่วนตัวและไม่เคยพกพาอาวุธออกไปข้างนอกแต่อย่างใด