ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ยอมรับการ์ดหน้าสถานบันเทิงชื่อดังกลางเมืองขอนแก่น ใช้เครื่องสแกนบัตรประชาชนนักเที่ยวก่อนเข้าร้าน ลั่นไม่สมควรอย่างยิ่ง ถือเป็นข้อมูลส่วนบุคคล พร้อมสั่งการให้หยุดใช้ทันที ย้ำชัดไม่ใช่นโยบายจังหวัด ด้าน ผจก.ร้าน ยันไม่ได้มีเจตนาที่ไม่ดี แค่เข้มงวด ป้องกันเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปีเข้ามาเที่ยว
จากกรณีที่มีผู้ใช้บริการผับดังกลางเมืองขอนแก่น โพสต์ข้อความในโซเชียลกังวลว่าจะถูกนำข้อมูลส่วนตัวในบัตรประชาชนไปใช้ทำเรื่องผิดกฎหมาย หลังจากที่ปรากฏข่าวร้านเหล้าชื่อดังแห่งหนึ่งย่านบางใหญ่ จ.นนทบุรี ที่มีการถ่ายบัตรประชาชนและใบหน้าของลูกค้าแล้วมีการนำไปขายในกลุ่มสายเทา โดยที่ จ.ขอนแก่นนั้น ลูกค้าก็ได้ถูกถ่ายภาพบัตรประชาชนและเสียบบัตรประชาชนสแกนผ่านเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ ก่อนให้เข้าไปใช้บริการภายในร้านเช่นกัน ซึ่งเมื่อคืนที่ผ่านมา ป้องกันจังหวัดพร้อมด้วยกำลังฝ่ายปกครองจังหวัดขอนแก่น และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองขอนแก่น ลงพื้นที่ตรวจสอบที่ผับดังกล่าว ตั้งอยู่ภายในพื้นที่โรงแรมแห่งหนึ่ง
โดยผู้จัดการของร้านได้สาธิตและอธิบายเกี่ยวกับเรื่องของการสแกนบัตรประชาชนดังกล่าว ซึ่งเรียกว่าระบบคัดกรองและตรวจสอบนักท่องเที่ยวก่อนเข้าสถานบันเทิง เพื่อป้องกันการใช้บัตรประชาชนเวียน, ป้องกันเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปีเข้ามาเที่ยว
ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2568 นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยเรื่องนี้ว่า จังหวัดยังมีการคุมเข้มการให้บริการสถานบันเทิง แต่การนำเครื่องสแกนบัตรประชาชนนักเที่ยวก่อนเข้าร้าน ไม่สมควรอย่างยิ่ง เพราะในบัตรประชาชนเป็นข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งการกระทำดังกล่าวไม่ใช่นโยบายจังหวัด ซึ่งหลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น สร้างความเสียหายต่อภาพรวมจังหวัด เพราะอาจกระทบกับการท่องเที่ยวจังหวัดขอนแก่น ซึ่งขณะนี้ได้สั่งการให้สถานบันเทิงหยุดใช้เครื่องสแกนบัตรประชาชน ที่อาจสุ่มเสี่ยงต่อการรั่วไหลของข้อมูล
...
อย่างไรก็ตาม หากผู้ใช้บริการสถานบันเทิงหากไม่สบายใจเกรงว่าข้อมูลจะรั่วไหล ขอให้นำหลักฐานเข้าแจ้งความหรือลงบันทึกประจำวันที่ สภ.เมืองขอนแก่น ได้
รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อคืนนี้เวลา 21.00 น. นายใจเพชร ขวาลำธาร ป้องกันจังหวัด พร้อมด้วยกำลังฝ่ายปกครองจังหวัดขอนแก่น และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองขอนแก่น ลงพื้นที่ตรวจสอบที่ผับดังกล่าว ซึ่งผู้จัดการของร้าน อายุ 27 ปี ได้สาธิตและอธิบายเกี่ยวกับเรื่องของการสแกนบัตรประชาชนดังกล่าว ซึ่งเรียกว่าระบบคัดกรองและตรวจสอบนักท่องเที่ยวก่อนเข้าสถานบันเทิง เพื่อป้องกันการใช้บัตรประชาชนเวียน, ป้องกันเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปีเข้ามาเที่ยว และป้องกันบุคคลอันตรายด้วย BLACK LIST โดยจะนำบัตรประชาชนของลูกค้ามาเสียบที่เครื่องและจะประมวลผลออกมาในส่วนแรก จะพบว่ามีภาพใบหน้าตามทะเบียนราษฎร์ ซึ่งจะมีข้อความสีเขียวคาดทับภาพระบุว่า “แลกบัตรผู้มาเข้าพบ” และจะปรากฏข้อมูลในส่วนของชื่อ-สกุล วัน เดือน ปีเกิด เลขประจำตัวบัตรประชาชน และอายุ ซึ่งหากผู้ที่มีอายุต่ำกว่ากฎหมายกำหนดคือ 20 ปี ก็จะมีตัวหนังสือสีแดงขึ้นที่ด้านบนภาพของเจ้าของบัตรประชาชน ระบุข้อความว่า “ต่ำกว่าเกณฑ์” และอายุจะเปลี่ยนเป็นสีแดง
ซึ่งทางผู้จัดการร้านยืนยันว่า ข้อมูลในส่วนนี้ไม่สามารถบันทึกลงคอมพิวเตอร์ได้ มีเพียงปุ่มให้กดปิดเท่านั้น และเมื่อกดปิดจะเป็นในส่วนที่ 2 ที่จะสามารถบันทึกข้อมูลลงในบันทึกข้อมูลลูกค้าของร้านได้ โดยจะปรากฏเพียงภาพที่คาดแถบสีเขียวว่าแลกบัตรผู้มาเข้าพบ พร้อมกับชื่อสกุล แต่จะไม่ปรากฏในส่วนของเลขบัตรประชาชน ตาม พรบ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เมื่อกดบันทึกลงในคอมพิวเตอร์ ข้อมูลในระบบของร้านจะดูได้เพียงประเภทผู้ที่มาใช้บริการที่ผับ อายุ เวลาที่เข้ามาใช้บริการ และภาพใบหน้าที่คาดแถบสีเขียวว่าแลกบัตรผู้มาเข้าพบเท่านั้น โดยไม่ได้มีการระบุชื่อ สกุล หรือเลขบัตรประชาชนแต่อย่างใด และในกรณีที่เป็นบุคคลอันตรายที่มีชื่อใน BLACK LIST ระบบก็จะขึ้นข้อความว่า “บุคคลต้องห้าม BLACK LIST ทันที” หรือหากผู้ใช้บริการใช้บัตรประชาชนเวียนซ้ำ ระบบก็จะโชว์ข้อมูลว่าบัตรประชาชนใบนี้ เคยใช้เข้าผับแล้วเมื่อวันเดียวกันในเวลาเท่าไหร่บ้าง
ผู้จัดการร้านให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า ทางร้านได้นำเครื่องสแกนบัตรมาใช้เนื่องจากทางร้านมีความเข้มงวดในการตรวจสอบอายุผู้ที่จะเข้ามาใช้บริการภายในร้าน ยืนยันว่าไม่ได้มีเจตนาที่ไม่ดี และอยากให้ลูกค้าเที่ยวด้วยความสบายใจ และเครื่องสแกนบัตรประชาชนก่อนเข้าใช้บริการภายในสถานบริการหรือสถานบันเทิงต่างๆ นั้น มีหลายร้านที่มีการนำมาใช้เช่นกัน ในส่วนตัวของร้านนั้น สืบเนื่องจากประสบการณ์ของทางร้าน พบว่าลูกค้าบางรายที่เข้ามาใช้บริการมีอายุไม่ถึง มีปลอมแปลงบัตร หรือเวียนบัตรประชาชนกันเข้ามา ทางร้านจึงต้องยกระดับให้เข้มงวดและชัดเจนมากขึ้นตาม
ยืนยันว่าข้อมูลของลูกค้าไม่มีรั่วไหลหรือถูกนำไปใช้ในทางที่ไม่ดีอย่างแน่นอน หรือหากลูกค้ามีข้อสงสัยก็สามารถสอบถามได้ทันทีว่าข้อมูลต่างๆ นั้นจะไปไหนบ้าง และจะมีการลบข้อมูลของลูกค้าทุกวัน พร้อมทั้งขอฝากเรื่องการมาใช้บริการ อยากให้ลูกค้าใช้ข้อมูลบัตรประชาชนตัวจริง หรือเปิดแอปพลิเคชันไทยไอดี ให้การ์ดของร้านได้ตรวจสอบที่หน้าร้าน ไม่ใช้การแคปหน้าจอเพราะสามารถปลอมแปลงได้ เมื่อกระแสดังกล่าวเกิดขึ้นทางร้านเองก็ไม่สบายใจก็จะต้องงดการใช้วิธีสแกนบัตรประชาชนไปก่อน จนกว่าจะมีคำสั่งของเจ้าหน้าที่ว่าจะให้สามารถใช้ต่อได้หรือให้งดใช้ถาวร
...